มะกันปฏิเสธข่าว ย้ายชาวปาเลสไตน์ไปลิเบีย หลังยิวประกาศแผนยึดกาซา

สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐกรุงตริโปลี ประเทศลิเบีย ออกแถลงการณ์ปฏิเสธรายงานข่าวที่ระบุว่า รัฐบาลสหรัฐกำลังจัดทำแผนเพื่อย้ายชาวปาเลสไตน์จากฉนวนกาซาไปยังลิเบีย

สถานีข่าว NBC News รายงานเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า รัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังจัดทำแผนการเพื่อย้ายชาวปาเลสไตน์จากฉนวนกาซาไปตั้งถิ่นฐานถาวรในลิเบียมากถึง 1 ล้านคน โดยอ้างแหล่งข่าว 5 คนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ รวมถึงบุคคลอีก 2 คนที่ทราบเรื่องโดยตรง และอดีตเจ้าหน้าที่สหรัฐอีก 1 คน

สถานทูตสหรัฐในลิเบียระบุผ่านแพลตฟอร์ม X ว่า “รายงานเกี่ยวกับแผนย้ายชาวกาซาไปลิเบียที่มีการกล่าวอ้างนั้นไม่เป็นความจริง”

ด้านรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ ซึ่งเป็นรัฐบาลที่ได้รับการรับรองในระดับสากลและมีฐานที่ตั้งอยู่ที่กรุงตริโปลี ยังไม่สามารถให้ความเห็นได้ในทันที

ก่อนหน้านี้ทรัมป์เคยกล่าวว่า เขาต้องการให้สหรัฐเข้ายึดครองฉนวนกาซา และให้ประชากรชาวปาเลสไตน์ย้ายไปตั้งถิ่นฐานที่อื่น โดยต้องการเปลี่ยนกาซาให้เป็น “ริเวียร่าของตะวันออกกลาง”

ขณะที่ชาวปาเลสไตน์คัดค้านแนวคิดนี้อย่างรุนแรง โดยเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ “นัคบา” หรือ “หายนะ” ในปี 1948 ซึ่งชาวปาเลสไตน์หลายแสนคนต้องพลัดถิ่นฐานจากบ้านเกิดของพวกเขา ระหว่างสงครามที่นำไปสู่การก่อตั้งรัฐอิสราเอล

เมื่อทรัมป์เสนอแนวคิดนี้เป็นครั้งแรกหลังเข้ารับตำแหน่ง เขากล่าวว่าต้องการให้อียิปต์และจอร์แดน ซึ่งเป็นพันธมิตรของสหรัฐรับผู้อพยพจากกาซาไปอยู่ด้วย แต่ทั้งสองประเทศปฏิเสธแนวคิดดังกล่าว ซึ่งนำไปสู่การประณามจากทั่วโลก โดยเฉพาะจากชาวปาเลสไตน์ ชาติอาหรับ และองค์การสหประชาชาติ ที่ระบุว่าแผนการของทรัมป์เข้าข่าย “การกวาดล้างชาติพันธุ์”

ขณะที่เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทรัมป์กล่าวว่าชาวปาเลสไตน์สามารถถูกย้ายไปยังประเทศอื่นๆ ได้ ซึ่งมีหลายประเทศที่ยินดีจะรับไว้

ระหว่างการเยือนกาตาร์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทรัมป์ยังย้ำความปรารถนาที่จะเข้าควบคุมฉนวนกาซา โดยกล่าวว่า เขาต้องการให้กาซากลายเป็น “เขตเสรีภาพ” และบอกด้วยว่าไม่มีอะไรเหลือให้กอบกู้แล้ว

คำปฏิเสธของสถานทูตสหรัฐในลิเบียมีขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจากที่อิสราเอลประกาศเริ่มต้นปฏิบัติการทางทหารครั้งใหญ่ที่เรียกว่า “Gideon’s Chariots” เพื่อมุ่งเผด็จศึกฮามาส ยึดครองกาซา และช่วยตัวประกันที่ยังคงเหลืออยู่ในฉนวนกาซาให้เป็นอิสระ