“TCEB” รวมพลัง 2 อุตสาหกรรม “ไมซ์-ท่องเที่ยว” เติบโตยั่งยืน เร่งเพิ่มรายได้ครึ่งหลังปี’68 ใส่เกียร์ลุย 3S “กระตุ้นการใช้เงิน-เพิ่มวันพัก-เลือกมาไทยซ้ำๆ” จัด MICE Summit 2025 ดันไมซ์ในประเทศเกาะสมุยโตโดดเด่น แนะรวมพลังปลุกจุดขาย “Man Made Destination”ใช้ 2 บิ๊กโปรเจกต์ ศูนย์บริการครบวงจร “ย่านราชประสงค์” กับ “Health & Wellness อันดามัน” จ.ภูเก็ต ปลุกกำลังซื้อไมซ์ไทยและทั่วโลกโตยั่งยืน
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป จะนำอุตสาหกรรมไมซ์ผนึกกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเพื่อรับมือสถานการณ์ความท้าทายช่วงครึ่งหลังปี 2568 ทำให้ตลาดไมซ์ในประเทศ และต่างประเทศ มี “รายได้เฉลี่ย” เพิ่มขึ้นจากนักเดินทางไมซ์ภาพรวมปัจจุบัน ตลาดต่างประเทศใช้จ่ายเงินเฉลี่ย 60,000-80,000 บาท/คน/ทริป ประกอบด้วย กลุ่มที่ 1 การจัดงานแสดงสินค้า (Exhibition) ใช้จ่ายกว่า 80,000 บาท/คน/ทริป ส่วนอีก 3 กลุ่ม MIC : Meeting-Incentive-Convention : สัมมนา-เดินทางเพื่อเป็นรางวัล-ประชุมขนาดใหญ่ ใช้จ่ายกว่า 60,000 บาท/คน/ทริป เป็นค่าห้องพัก โรงแรม จึงสามารถเพิ่มรายได้จากกิจกรรมหรือบริการ เมดิคัล กับ เวลเนส สปา มูลค่าสูงได้มากขึ้นอีก
ทีเส็บหารือแล้วกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และหน่วยงานเกี่ยวข้องทั้งหมด จับมือกันระหว่างพฤษภาคม-กันยายน 2568 นี้เดินหน้าทำ 3 เรื่องหลัก ได้แก่ เรื่องที่ 1 เพิ่มความเข้มข้นมาตรการ “ดูแลความปลอดภัย” ให้นักเดินทางทุกกลุ่ม เรื่องที่ 2 ทีเส็บเน้นการใช้กลยุทธ์ 3 S ได้แก่ S1 : Stay Longer เพิ่มวันพักนานขึ้น S2 : Spending Morใช้จ่ายเงินเพิ่มขึ้น S3-See You Again กลับมาจัดงานในไทยซ้ำ ๆ เรื่องที่ 3 ปรับรูปแบบการจัดโร้ดโชว์ โดยทีเส็บจะร่วมกับพันธมิตรเพิ่มเนื้อหาข้อมูลมากกว่าทำการขายแบบรุกหนักมากเกินไป
โดยกำหนดจะนำเอกชนไปจัด “ประชุมสัมมนา” ใน 2 มณฑล กรุงปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน ช่วงเดือนมิถุนายน 2568 เตรียมร่วมกับบริษัทสื่อสารอันดับต้น ๆ ของจีน เปิดรับฟังข้อเสนอแนะแนวทางปรับกลยุทธ์ใหม่ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมตลาดไมซ์จีนยุคใหม่ รวมถึงการดึงงานต่าง ๆ มาจัดในไทยจะใส่สิ่งสำคัญทางสภาพแวดล้อม โปรดักซ์เข้าไปในกิจกรรมต่าง ๆ ให้ลูกค้าเห็นสิ่งพิเศษมากขึ้น เพื่อเพิ่มรายได้จากไมซ์แต่ละงานให้ได้มากที่สุดสร้างความสำเร็จปี /568 ควบคู่กับสร้างความมั่นใจ ความเชื่อมั่น ให้ตลาดไมซ์จีนไว้วางใจมากที่สุด
นายจิรุตถ์ กล่าวว่า การกระตุ้น “ไมซ์ในประเทศ” ทีเส็บเป็นเจ้าภาพจัดงานเทรด “MICE Summit 2025” ปีที่ 5 เมื่อวันที่ 6-7 พฤษภาคม 2568 ที่ “เกาะสมุย” ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองไมซ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ส่งเสริมตลาดการขายร่วมกับพันธมิตร 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ 1 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ส่วนจังหวัด (อบจ.) ผู้ว่าราชการจังหวัด กลุ่มที่ 2 ภาคธุรกิจในอุตสาหกรรมไมซ์ โรงแรม ออร์แกไนเซอร์ กลุ่มที่ 3 ชุมชน เพื่อวางแผนกระจายรายได้ตรงเข้าสู่ท้องถิ่น
ในงานมีไฮ”ลต์การจัด “MICE Bazaar” เวทีเจรจาระหว่างผู้ซื้อ 155 ราย แลกเปลี่ยนธุรกิจกับผู้ขายซึ่งเป็นผู้ประกอบการบนเกาะสมุยและสุราษฏร์ธานี 38 ราย สามารถกระตุ้นรายได้จากอุตสาหกรรมไมซ์หมุนเวียนบนเกาะสมุยประมาณ 30-40 ล้านบาท รวมทั้งได้มีโอกาสโปรโมทเป็นสถานที่จัดงานควบคู่กับอัพเดทให้สมุยเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ศักยภาพรองรับการจัดงานรองรับกลุ่มผู้ซื้อตลาดไมซ์ในอนาคตอย่างโดดเด่นต่อไป
ตลอดงาน MICE Summit 2025 ปีนี้ประสบความสำเร็จสูงมาก มีผู้ว่าและรองผู้ว่าราชการจังหวัดเข้าร่วมจาก 10 เมืองไมซ์ พร้อมทั้งร่วมมือกับสภาหอการค้าไทย ผลักดันให้เกิดการลงทุนปรับโครงสร้างพื้นฐาน และได้แรงสนับสนุนจาก ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นักวิชาการ ขึ้นเวทีนำเสนอเรื่อง “เทรน์การใช้ AI และไมซ์ในอนาคต” รวมถึงเชิญชวนชุมชนร่วมการประกวด “ออกแบบอาหารว่าง” จากวัตถุดิบในชุมชุนให้ชาวเกาะสมุยและผู้ประกอบการไมซ์ร่วมมือกันส่งประกวดชิงรางวัล กระตุ้นคิดสร้างสรรค์ตอบโจทย์นักเดินทางกลุ่มไมซ์ สร้างโปรดักซ์ใหม่ ๆ ในอนาคตต่อไป มีบางกอก แอร์เวย์ส โรงแรมต่าง ๆ ร่วมเป็นสปอนเซอร์ด้วย
นายจิรุตถ์ กล่าวว่าอุตสาหกรรมไมซ์พร้อมจะเชื่อมโยงจุดขายสถานที่จัด “งานไมซ์ที่มนุษย์สร้างขึ้น หรือ Man Made Destination” ซึ่งเป็นจุดแข็งของประเทศไทยทางด้านเมดิคัล โดยเฉพาะ “เวลเนส สปา” ปัจจุบันไทยติดอันดับ 5 ของโลก จึงสามารถนำมาต่อยอดเพิ่มรายได้จากตลาดไมซ์ในประเทศและทั่วโลกได้ โดยวิธีส่งเสริมการขายเชื่อมโยงเป็นรูปธรรมในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ 2 โครงการหลัก ได้แก่
โครงการที่ 1 ศูนย์รวมบริการครบวงจร ตัวอย่าง “บริเวณราชประสงค์” เอกชนใช้เงินลงทุนสร้างโรงแรม เมกะเวิลด์ ห้างสรรพสินค้า ใกล้ระบบขนส่งรถไฟฟ้า เชื่อมต่อไปถึงพารากอน ถือเป็นหนึ่งใน Man Made รองรับตลาดไมซ์ได้เป็นอย่างดี พร้อมจะเป็นตัวช่วยให้ผู้เข้าร่วมงานไมซ์ใช้เวลาอยู่นาน ใช้จ่ายเงินเพิ่มขึ้น พุ่งเป้ากลุ่มตลาดไมซ์ต่างประเทศ ซึ่งสามารถรองรับการจัดประชุม สัมมนา อีเวนต์ คอนเสิร์ตระดับพรีเมี่ยมในคอมเพล็กซ์ได้ จึงมีความสำคัญเป็นประโยชน์สูงมากที่จะช่วยดึง “จำนวนคนและเพิ่มรายได้” เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เพราะทุกวัยสามารถทำกิจกรรมได้แบบครบวงจร
โครงการที่ 2 โครงการลงทุนพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพครบวงจร หรือ Medical Hub ขณะนี้ภูเก็ตมีแผนเตรียมไว้แล้วตามช่วงเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ Special Expo 2029 ทางมหาวิทยาลัยศรีนครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต จะสร้างเมดิคัล ฮับ มูลค่า 5,000 ล้านบาท เพื่อเป็นศูนย์สุขภาพอันดามัน ใช้เงินลงทุนราว 5,116 ล้านบาท ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ
ส่วนที่ 1 วิทยาลัยนานาชาติ ผลิตบุคลากรด้านสาธารณสุขให้หน่วยงานต่าง ๆ
ส่วนที่ 2 โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ภูเก็ตให้บริการแพทย์ทางไกลแก่นักท่องเที่ยว และมีระบบส่งต่อไปยังโรงพยาบาลทั่วอันดามัน ใช้งบ 4,762 ล้านบาท เตรียมเปิดปี 2569
ส่วนที่ 3 ศูนย์สุขภาพนานาชาติอันดามัน เป็นศูนย์ทันตกรรมดิจิทัลแห่งแรกในภาคใต้ เปิดบริการแล้วเมื่อปี 2567 ตั้งเป้าเพิ่มรายได้เติบโตเฉลี่ยกว่า 10 % หรือปีละกว่า 62,000 ล้านบาท
นายจิรุตถ์ กล่าวว่า ตั้งแต่ครึ่งหลังปี 2568 ทีเส็บจะเดินหน้าร่วมกับทุกฝ่ายสร้างความเข้มแข็งให้อุตสาหกรรมไมซ์ตลาดในประเทศและต่างประเทศ โดยใช้พลังหลัก 3 เรื่อง ได้แก่ เรื่องที่ 1 ช่วยกันสื่อสารเชิงบวกเพื่อสร้างความมั่นใจให้นักเดินทางทุกตลาด เรื่องที่ 2 ดีไซน์โปรดักซ์ใหม่ ๆ ทั้งอาหาร สถานที่ โปรแกรมการจัดงาน เรื่องที่ 3 ปรับกลยุทธ์ดการจัดโร้ดโชว์ งานสัมมนา ในตลาดต่างประเทศ หันมาเพิ่มเนื้อหาข้อมูลให้กับคู่ค้ามากขึ้น เพื่อแชร์ประสบการณ์บอกเล่าเรื่องราวที่ดี ๆ ระหว่างผู้จัดงานระหว่างตัวแทนผู้ขายและผู้ซื้อ ซึ่งจะเกิดประโยชน์เชิงบวกกับทุกฝ่ายทำให้อุตสาหกรรมไมซ์ของไทยเติบโตอย่างยั่งยืน
เรื่องโดย #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen
Contact to : xlf550402@gmail.com
Copyright © boyuanhulian 2020 - 2023. All Right Reserved.