‘ไบเดน’ ขอบคุณทุกกำลังใจ หลังเผยเป็นโรคมะเร็ง รีพับลิกันตั้งคำถามทำไมปิดบัง

สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 19 พฤษภาคม อดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐ กล่าวผ่านบัญชีโชเซียลมีเดียส่วนตัวว่า “โรคมะเร็งส่งผลกระทบต่อเราทุกคน เหมือนกับหลายๆ คน ผมกับจิลพบว่าเราเข้มแข็งที่สุดในช่วงเวลาที่เราเปราะบางมากที่สุด ขอขอบคุณสำหรับการที่ทุกคนมอบความรักและการสนับสนุนแก่เรา” หลังก่อนหน้านี้ ทีมงานของไบเดนได้เปิดเผยว่า เขาได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากชนิดรุนแรง และอยู่ได้ระยะแพร่กระจายไปยังกระดูกแล้ว

พระราชวังบักกิงแฮมแถลงว่า สมเด็จพระราชาธิบดีชาร์ลส์ที่สามแห่งสหราชอาณาจักร ทรงเขียนจดหมายส่วนพระองค์แสดงความห่วงใยและกำลังใจถึงไบเดนด้วย

ด้าน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า ตนรู้สึกแย่ต่อเรื่องดังกล่าว พร้อมระบุว่า รู้สึกประหลาดใจที่ไม่ได้มีการแจ้งให้สาธารณชนทราบได้เรื่องนี้ตั้งนานแล้ว เพราะกว่ามะเร็งจะไปอยู่ในระยะเก้านั้นต้องใช้เวลานานมากซึ่งก็อาจจะหลายปี ดังนั้นประชาชนควรที่จะตรวจสอบว่าเกิดอะไรขึ้น

นายเจ.ดี. แวนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ ได้แสดงความห่วงใยต่อไบเดน และกล่าวว่า เราจำเป็นต้องยอมรับความจริงว่าเมื่อครั้งที่อดีตประธานาธิบดีปฏิบัติหน้านี้ ท่านมีความสามารถเพียงพอหรือไม่ เราต้องแยกแยะระหว่างความปราถนาให้ท่านมีสุขภาพที่ดีกับการยอมรับว่าท่านไม่สามารถทำหน้าที่ให้ดีเพื่อชาวอเมริกัน

แวนซ์กล่าวเสริมด้วยว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เราสามารถอธิษฐานให้ตัวอดีตประธานาธิบดีมีสุขภาพที่ดีได้ แต่ต้องยอมรับด้วยว่าถ้าสุขภาพของท่านไม่ดีพอที่จะปฏิบัติหน้าที่ ก็ไม่ควรที่จะทำหน้าที่นั้น

การเปิดเผยถึงการได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งของไบเดนเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันกับที่หนังสือชื่อ Original Sin: President Biden’s Decline, Its Cover-Up, and His Disastrous Choice to Run Again (บาปดั้งเดิม: การถดถอยของประธานาธิบดีไบเดน การปกปิดในเรื่อง และการตัดสินใจที่เลวร้ายในการลงสมัครรับตำแหน่งอีกครั้ง) มีกำหนดการวางจำหน่ายในวันที่ 20 พฤษภาคม ซึ่งได้ระบุว่าไบเดนและที่ปรึกษาปกปิดการทรุดตัวลงจากอาการป่วยขณะที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี พร้อมชี้ว่าไบเดนไม่สามารถจำจอร์จ คลูนีย์ นักแสดงและผู้บริจาคเงินให้พรรคเดโมแครตคนสำคัญในงานระดมทุนเมื่อปีที่แล้ว รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่ใกล้ชิดกับเขาได้มีการหารือกันในเรื่องความจำเป็นที่เขาต้องนั่งรถเข็นด้วย