ชาวบ้าน และพ่อค้าแม่ค้าที่เคยนำสินค้าอุปโภคบริโภค  ไปขายที่จุดผ่อนปรน "ช่องสายตะกู" อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์  ต่างได้รับผลกระทบจากการปิดช่องสายตะกูไม่มีกำหนด ทำให้ขาดรายได้  หลายคนก็เริ่มปรับตัวขายหน้าบ้านตัวเองแม้ยอดขายจะลดจากวันละ 4-5 หมื่น เหลือ 1-2 พัน แต่ก็ต้องปรับสถานการณ์เพื่อความอยู่รอด   อยากให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเร่งหาทางออกปัญหาพิพาทไทย-กัมพูชาให้จบโดยเร็ว 





หลังจากที่พลโท  บุญสิน  พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2  ได้เซ็นหนังสือคำสั่งปิดจุดผ่อนปรนช่องสายตะกู  ตำบลจันทบเพชร อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ โดยไม่กำหนด  มีผลตั้งแต่วันที่ 21 มิ.ย.68  จากที่ก่อนหน้านี้ได้มีคำสั่งควบคุมวันเวลาเปิด-ปิดจุดผ่อนปรนช่องสายตะกูจากสัปดาห์ละ 7 วัน เหลือเพียงสัปดาห์ละ 3 วัน คือ วันอังคาร  พุธ  และพฤหัสบดี เวลา 09.00 – 12.00 น.  แต่สถานการณ์ชายแดนก็ยังตึงเครียด   จนล่าสุดมีคำสั่งปิดจุดผ่อนปรนช่องสายตะกู  เพื่อยกระดับปกป้องอธิปไตยของไทย    



ล่าสุดวันนี้ (22 มิ.ย.68)  ทีมข่าวได้ลงพื้นที่บริเวณจุดผ่อนปรน ช่องสายตะกู  ต.จันทบเพชร  อ.บ้านกรวด  พบว่าได้มีการปิดประตูด่านพรมแดน   ข้ามบุคคลใดเข้า-ออก   มีเพียงเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงที่ดูแลความเรียบร้อยประจำด่านเท่านั้น    





จากนั้นทีมข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศในหมู่บ้าน   ก็พบว่า พ่อค้าแม่ค้าและชาวบ้านหลายคน  ที่เคยนำสินค้าอุปโภคบริโภค และผลผลิตทางการเกษตร ไปขายที่จุดผ่อนปรนช่องสายตะกู    ก็เริ่มปรับตัวหันมาตั้งโต๊ะขายหน้าบ้านของตัวเองให้กับชาวบ้านในหมู่บ้าน  และผู้คนที่ผ่านไปมา    แม้จะขายไม่ค่อยดีเหมือนที่จุดผ่อนปรนช่องสายตะกู  แต่ก็จำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์เพื่อความอยู่รอด    





โดยพ่อค้าแม่ค้า ก็ยอมรับว่า การสั่งปิดด่านก็ได้รับผลกระทบแน่นอน  เพราะหากขายช่องสายตะกูจะมีรายได้หลักหมื่น  โดยเฉพาะวันศุกร์ ซึ่งมีตลาดนัดที่ช่องสายตะกูด้วยก็จะมีรายได้ถึง 4 – 5 หมื่นบาท   แต่พอเกิดปัญหาพิพาทระหว่างไทย-กัมพูชา  ก็ได้รับผลกระทบมาอย่างต่อเนื่อง จนล่าสุดมีคำสั่งปิดด่าน    ก็ยิ่งเดือดร้อนเพิ่มขึ้นอีก    





นางอัญณิกา   สะอิ้งรัมย์   อายุ58 ปี  ชาวบ้านสายโท 6 ใต้ บอกว่า   ตนมีอาชีพขายอาหารทะเล และผลไม้ที่จุดผ่อนปรนช่องสายตะกูมาเกือบ 10 ปีแล้ว  ช่วงที่เปิดปกติยังไม่มีปัญหาพิพาทกันจะขายได้วันละ 4 – 5 หมื่นบาท  ส่วนมากจะเป็นชาวกัมพูชาข้ามมาซื้อ   แต่หลังจากเกิดปัญหาพิพาทกัน มีมาตรการควบคุมวันเวลาเปิด-ปิดด่าน ยอดขายก็ลดลงเรื่อยๆ   กระทั่งล่าสุดมีคำสั่งปิดจุดผ่อนปรนช่องสายตะกู  ก็ยอมรับว่ากระทบเพราะไม่สามารถไปขายสินค้าได้   จึงได้ปรับตัวด้วยการหันมาขายหมูปิ้ง และไก่ย่างที่หน้าบ้านของตัวเอง  แม้รายได้จะลดลงหลายเท่าตัวเหลือวันละ 1-2 พันบาทรวมต้นทุน   แต่ก็จำเป็นต้องปรับตัวไปตามสถานการณ์เพื่อความอยู่รอดของครอบครัว    หากเป็นไปได้ก็อยากให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง  เร่งหาทางออกยุติข้อพิพาทที่เกิดขึ้น   เพื่อให้สามารถค้าขายได้เป็นปกติเหมือนเดิม.

Contact to : xlf550402@gmail.com


Privacy Agreement

Copyright © boyuanhulian 2020 - 2023. All Right Reserved.