ยังไม่ไว้ใจ! ชาวจันทบุรีหลากอาชีพ แห่ถอนเงินจากตู้ ATM หวั่นถูกอายัดบัญชี ตำรวจเตือน อย่าโอนกลับ! แนะรีบพบเจ้าหน้าที่หากเงินปริศนาเข้ามา

วันที่ 15 ก.ย. 68  ผู้สื่อข่าวที่ได้ลงพื้นที่หน้าตู้ ATM ตามธนาคารในตัวเมืองจันทบุรี พบว่ามีประชาชนจากหลากหลายอาชีพ ทยอยเดินทางมากดเงินสดออกมาอย่างต่อเนื่อง จากคำบอกเล่าของ น.ส.ธรรมรุจา แม่ค้าขายลอตเตอรี่ หน้าธนาคารแห่งหนึ่ง บอกว่าช่วงนี้มีลูกค้ามากดเงินมากกว่าปกติอย่างเห็นได้ชัด และเชื่อว่าสาเหตุมาจากกระแสการอายัดบัญชี ที่กำลังเป็นที่พูดถึงในวงกว้าง

น.ส.ธรรมรุจา กล่าวว่า โดยส่วนตัว มีความกังวลมาก เพราะเงินเข้า-ออกบัญชีตลอดทั้งวัน แต่ก็ยังไม่ได้ถอนออกมาทั้งหมด เพราะเงินในบัญชีก็ยังจำเป็นต้องใช้โอนจ่าย ส่วนเรื่องการเป็นบัญชีม้า เป็นเรื่องที่คาดเดาไม่ได้เลยว่าเราจะถูกโยงไปเมื่อไหร่ เพราะไม่รู้ว่าลูกค้ามาจากไหนบ้าง โดยมองว่าการแก้ปัญหาการโกงออนไลน์ด้วยวิธีอายัดบัญชีนั้น เป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ตรงจุด และทำให้ประชาชนที่ทำมาหากินปกติได้รับความเดือดร้อน

ขณะที่พ่อค้าไก่ทอด ที่บริเวณตลาดน้ำพุในเทศบาลเมืองจันทบุรี ซึ่งกำลังทยอยกดเงินออกจากตู้ ATM อย่างต่อเนื่องครั้งละ 50,000 บาท โดยมีการสแกนใบหน้าถึง 

3 ครั้ง บอกว่า ยอมเสียเวลามาถอนเงินสด เพื่อป้องกันเงินที่เก็บออมามาทั้งชีวิต กลัวว่าอาจจะถูกอายัด  ยอมรับว่าทำไปเพราะความกังวลกับกระแสการอายัดบัญชี เนื่องจากบัญชีที่ใช้อยู่ เคยถูกใช้ซื้อขายรถจักรยานยนต์มือสองมาก่อน และตอนนี้ก็นำมาใช้รับเงินจากการขายไก่ทอด

พ่อค้าไก่ทอด บอกอีกว่า วิธีนี้เป็นการป้องกันไว้ก่อน เพราะเงินนี้เก็บมาทั้งชีวิต ต้องใช้หมุนเวียนทำธุรกิจ ซึ่งต้องยอมมาเสียเวลาทำธุรกรรมหน้าตู้ ATM เพราะเชื่อว่าหาก

เข้าไปถอนเงินที่เคาน์เตอร์ธนาคาร อาจถูกเจ้าหน้าที่โน้มน้าวให้เชื่อใจธนาคาร ซึ่งตนเองและครอบครัวยืนยันที่จะถอนเงินทั้งหมด จึงไม่ต้องการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด 

ด้านผู้จัดการธนาคาร กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอให้ลูกค้ามั่นใจเพราะการอายัดจะเกิดขึ้นเฉพาะยอดเงินที่มีการแจ้งความเท่านั้น ไม่มีการอายัดทั้งบัญชี

ส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองจันทบุรี ซึ่งรับเรื่องคดีฉ้อโกงออนไลน์ ยืนยันว่าในพื้นที่ จ.จันทบุรีมีผู้ที่ถูกอายัดบัญชีและเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์เพื่อขอ

ปลดล็อกอย่างต่อเนื่องทุกวัน มาจากหลายสาขาอาชีพ ทั้งคนที่เดินทางเข้ามาจากต่างจังหวัดและคนในพื้นที่ โดยได้เน้นย้ำถึงกระบวนการช่วยเหลือว่า เจ้าหน้าที่จะบริการรับเรื่องและตรวจสอบอย่างเต็มที่ เพื่อส่งต่อให้กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือศูนย์ AOC 1441 ตามลำดับ พร้อมให้คำแนะนำตามขั้นตอน แต่ยืนยันว่าการกำหนดระยะเวลาในการปลดล็อกบัญชีนั้นอยู่นอกเหนืออำนาจหน้าที่ของตำรวจภูธร

นอกจากนี้ ยังเตือนประชาชนทุกคนให้ระมัดระวังการรับโอนเงินจากบุคคลที่ไม่รู้จัก หากมีเงินที่ไม่ทราบที่มาโอนเข้ามาในบัญชี ให้รีบเดินทางไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สถานีตำรวจใกล้บ้านทันที อย่าโอนเงินกลับเองโดยเด็ดขาด เพราะจะถือว่าเป็นการกระทำที่เข้าข่ายเป็นบัญชีม้าได้