‘กระดูกพรุน’ เรื่องที่เรามักได้ยินผู้สูงอายุเป็นกังวลกันบ่อย ๆ แต่ปัจจุบัน ไม่ใช่แค่เรื่องของคนสูงวัยเท่านั้น วัยรุ่นและวัยทำงานก็เสี่ยงต่อการเป็นกระดูกพรุนได้ ด้วยพฤติกรรมเสี่ยงจากการใช้ชีวิต ที่อาจบั่นทอนความแข็งแรงของมวลกระดูกโดยไม่รู้ตัว

ปัจจัยเสี่ยงกระดูกพรุนมีอะไรบ้าง ?

การดื่มแอลกอฮอล์หรือคาเฟอีนมากเกินไป

  • กาแฟ ชา อาจช่วยให้มีแรงทำงาน เหล้า เบียร์อาจเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยให้การสังสรรค์สนุกขึ้น แต่หากบริโภคมาก นอกจากส่งผลเสียต่อสุขภาพโดยรวม ก็ทำให้การดูดซึมแคลเซียมน้อยลงได้

ขาดวิตามินดี

  • หากร่างกายขาดวิตามินดีหรือแสงแดดที่ช่วยกระตุ้นการสังเคราะห์วิตามินดีในร่างกาย สามารถส่งผลต่อให้กระดูกพรุนได้ เพราะวิตามินดีมีส่วนสำคัญในการสร้างแคลเซียมของกระดูก

ขาดการออกกำลังกาย

  • โดยเฉพาะการออกกำลังกายที่มีแรงกด (weight-bearing exercise) เช่น วิ่ง เดินเร็ว เวตเทรนนิ่ง

อดอาหาร/ลดน้ำหนักผิดวิธี

  • ทำให้ขาดสารอาหารที่จำเป็นในการสร้างมวลกระดูก

พันธุกรรม

  • คนในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคกระดูกพรุน หรือมีโรคประจำตัว เช่น ไทรอยด์ เบาหวาน

การใช้ยาบางชนิดต่อเนื่อง

  • เช่น ยาสเตียรอยด์ ยากันชัก ยารักษาไทรอยด์

ความผิดปกติของฮอร์โมน

  • กระดูกพรุนเสี่ยงเกิดในผู้หญิงมากกว่า เนื่องจากฮอร์โมนเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยกระตุ้นการสร้างกระดูก เมื่อหมดประจำเดือนผู้หญิงจึงมีความเสี่ยงมวลกระดูกสลายเร็วกว่า และในผู้ชาย กระดูกจะเริ่มบางลงเมื่อฮอร์โมนเพศลดลงตามวัย

การรักษาและป้องกันโรคกระดูกพรุน ‘โดยไม่ใช้ยา’

รับแคลเซียมให้เพียงพอ

  • สำหรับวัยผู้ใหญ่ ควรได้รับแคลเซียมต่อวัน 800-1000 มิลลิกรัม ซึ่งพบมากในนม โยเกิร์ต ชีส ปลาเล็ก ถั่ว งา

กระตุ้นการสังเคราะห์วิตามินดี

  • รับแสงแดดอ่อนตอนเช้า 10-15 นาทีต่อวัน เพื่อกระตุ้นการสร้างวิตามินดี และเสริมด้วยอาหาร เช่น ไข่แดง ปลาแซลมอน

ออกกำลังกาย

  • เช่น เดินหรือวิ่งอย่างน้อย 30 นาที เล่นเวตเทรนนิ่ง เพื่อสร้างความแข็งแรงให้กระดูก

เลี่ยงปัจจัยทำลายกระดูก

  • ลดกาแฟ ชา เครื่องดื่มคาเฟอีนสูง เลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์

รักษาน้ำหนักตัวให้เหมาะสม

  • น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป มีผลต่อความแข็งแรงของมวลกระดูก การรับสารอาหารครบถ้วนและออกกำลังกายจึงสำคัญมาก

ตรวจสุขภาพและระดับฮอร์โมน

  • โดยเฉพาะผู้ที่มีพันธุกรรมโรคกระดูกพรุนและโรคประจำตัว

การรักษาโรคกระดูกพรุน ‘โดยใช้ยา’

  • ยาลดการสลายของกระดูก (Antiresorptive agents) มีทั้งชนิดรับประทานและฉีดเข้าใต้ชั้นผิวหนังหรือเส้นเลือดดำ
  • ยาที่กระตุ้นการสร้างกระดูก (Anabolic agents) ยาชนิดฉีดที่ต้องฉีดเข้าชั้นใต้ผิวหนังทุกวัน

ทั้งนี้วิธีการรักษาขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งตัวผู้ป่วยรวมถึงดุลพินิจของแพทย์ ดังนั้นการปรึกษาแพทย์ ตรวจมวลกระดูกและตรวจสุขภาพถือเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุน

กระดูกพรุนไม่ใช่เรื่องไกลตัว ที่ผู้สูงอายุควรระวังเท่านั้น การสร้างและรักษามวลกระดูกที่แข็งแรงตั้งแต่อายุยังน้อย ถือเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันโรคกระดูกพรุนในอนาคต การดูแลสุขภาพสม่ำเสมอตั้งแต่วันนี้ ไม่ใช่เพียงเพื่อตัวเราปัจจุบัน แต่เป็นการลงทุนระยะยาวเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกช่วงวัย

โดย : นายแพทย์เกรียงศักดิ์ เล็กเครือสุวรรณ โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล

Contact to : xlf550402@gmail.com


Privacy Agreement

Copyright © boyuanhulian 2020 - 2023. All Right Reserved.