‘เกสรลำพู’ ขนมไทยหายาก สะท้อนเสน่ห์ชาวบางลำพู ในงาน SX2025

เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม งาน Sustainability Expo 2025 (SX2025) ต้นแบบของงานมหกรรมด้านความยั่งยืนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปีของอาเซียน ภายใต้แนวคิดหลัก “พอเพียง ยั่งยืน เพื่อโลก” (Sufficiency for Sustainability) นำโดย บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ด บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เอสซีจี และ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) รวมถึงเครือข่ายห่วงโซ่อุปทานแห่งประเทศไทยหรือ TSCN (Thailand Supply Chain Network) โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 กันยายน – 5 ตุลาคม เวลา 10.00 -20.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

บรรยากาศเวลา 13.30 น. บริเวณฮอลล์ 4 โซน SX Gethering Space มีกิจกรรม “สาธิตการทำขนนมเกสรลำพู” โดย แก้วใจ เนตรรางกูล หรือ ป้าแจ้ ชาวบางลำพู พร้อมกับ ไกด์เด็กบางลำพู ที่จะมาให้ความรู้เกี่ยวกับย่านบางลำพู และที่มาของขนมเกสรลำพูที่นำมาสาธิตให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้รับชม ซึ่งมีผู้เข้าร่วมงานให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ทั้งนักศึกษาจากคณะคหกรรมศาสตร์ และ ประชาชนทั่วไป

โดยแก้วใจ เปิดเผยว่า ขนมเกสรลำพู เกิดจากแรงบันดาลใจและความตั้งใจของเหล่าไกด์เด็กบางลำพู รวมถึงตนที่มีหัวใจรักในการทำขนมหวานและขนมไทย จากการปลุก คลุก นึ่ง กด และปั้น จนกลายเป็นขนมเกสรลำพู ที่มีชื่อมาจาก “ต้นลำพู” และถิ่นที่อยู่อาศัยแต่กำเนิดของตน

ซึ่งปัจจุบันต้นลำพูเหลือน้อยลงมาก เนื่องจากเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อปี 2554 แต่หลังจากนั้นมีคนในชุมชนนำต้นที่เหลืออยู่มาทำการปลูกเพิ่มจึงยังเห็นต้นลำพูอยู่ในบางพื้นที่ของชุมชน โดยในอดีตหลายครัวเรือนนิยมรับประทานดอกลำพู ทั้งเป็นผักเคียงจิ้มกับน้ำพริก หรือรับประทานเปล่า ๆ แต่ปัจจุบันวัฒนธรรมการกินดอกลำพูนั้นลดน้อยลง

แก้วใจ กล่าวถึงที่มาของขนมเกสรลำพูต่อว่า ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด 19 รวมถึงราคามันม่วงในท้องตลาดช่วงนั้นมีราคาถูกจึงอยากทำขนมที่สามารถ “ร้อยเรียงความเป็นคนบางลำพูของตนเอง” จึงเลือกต้นลำพู ต้นไม้ประจำชุมชน มาทำขนมในครั้งนี้ จากนั้นนำมันม่วงมาขึ้นรูป ผสมผสาน ลองผิดลองถูกหลายครั้ง โดยมีเหล่าไกด์เด็กแวะเวียนเข้ามาชิม กระทั่งค้นพบกรรมวิธีที่ถูกใจ คือการนำมันม่วงที่ได้มาจากตลาดไปนึ่ง และทำการยีในขณะที่มันม่วงกำลังร้อน

แต่ถึงอย่างนั้นแค่มันม่วงเพียงอย่างเดียวไม่สามารถขึ้นรูปเป็นเกสรลำพูได้ ต้องมีแป้งเข้ามาผสม ซึ่งตนเลือกใช้เป็นแป้งเค้กที่มีความเบาเข้ามาเป็นส่วนผสมในการขึ้นรูป อีกทั้งยังมี “ดอกหอมหมื่นลี้” ที่นำไปคั่วกับแป้งเค้กเพื่อดับกลิ่น ซึ่งวิธีนี้เป็นการขจัดกลิ่นแป้งที่ผสมอยู่ในมันม่วง เพื่อให้เหลือเพียงกลิ่นของมันม่วงเท่านั้น

หลังจากนั้นนำแป้งที่ได้มานวด เพิ่มความหวานด้วยน้ำอ้อย ปรุงรสให้มีความเค็มพอดี สำหรับไส้ของขนม ปกติแล้วจะต้องเป็นไส้ถั่วแดง หากแต่การทำขนมเกสรลำพูในครั้งนี้เป็นการทำให้เด็กรับประทาน ซึ่งเด็กไม่ชอบธัญพืช จึงเปลี่ยนเป็นไส้คุ้กกี้นม ที่ส่วนผสมของคุ้กกี้ทั้งเนย นม และไข่ ต้องสุกทั้งหมดแล้ว ก่อนที่จะนำมาผสม คลุกเคล้ากันเป็นไส้ของขนมเกสรลำพู โดยรสชาติของไส้มีความหนึบ ซึ่งวิธีการห่อไส้นั้นไม่ยุ่งยาก คล้ายกับการทำขนมเปี๊ยะ และเมื่อรับประทานร่วมกับแป้งมันม่วงแล้วจะได้รสชาติความหวานจากตัวนม และความเนียนจากมันม่วง หากนำไปแช่เย็นจะยิ่งอร่อยมากกว่าเดิม

ส่วนแม่พิมพ์ขนม เป็นการสั่งทำพิเศษ โดยเป็นลายที่บอกเล่าความเป็นชุมชนบางลำพู ซึ่งความพิเศษของการสาธิตในงาน SX 2025 ครั้งนี้นั้น ได้มีการทำขนมเกสรลำพูในรูปแบบของวัฏจักรการเติบโตของต้นลำพู ให้ผู้เข้าร่วมกิจกรมได้ชมกันอีกด้วย

ทั้งนี้ แก้วใจ ทิ้งท้ายว่า ตนต้องการพยายามยกระดับความเป็นขนมไทย ทำอย่างไรให้ขนมสร้างมูลค่าให้กับตนเอง ซึ่งการจะสร้างอาชีพไม่จำเป็นจะต้องลงทุนหลักหมื่น หรือหลักแสน จริง ๆ แล้ว หลักร้อย หลักพันก็สามารถสร้างรายได้ได้อีกหนึ่งกระเป๋า ใครที่มีอาชีพอยู่แล้วสามารถสร้างราบได้โดยการทำขนมขายตามแพลตฟอร์มต่าง ๆ

“แม่ของแจ้สอนไว้ว่า ไม่ว่าเราจะออกเรือน หรือตัวคนเดียว แค่มีรังถึงหนึ่งก็สามารถทำอาหาร ทำขนม สร้างอาชีพให้กับตัวลูกได้ ซึ่งสิ่งที่เราทำทุกวันนี้คือ ขนมอะไรก็ได้ที่มันเกี่ยวกับการนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น ขนมชั้น จีบนก ช่อม่วง หรือสาคู ปัจจุบันนี้ มีกระทะไฟฟ้า สะดวกสบายขึ้นไปอีก ช่วงโควิดเราเลี้ยงชีพด้วยการขายขนม ด้วยรังถึงใบเดียว มากหน่อยก็ซื้อตะกร้อมือมาเพิ่ม ซึ่งนี่คือการสร้างอาชีพและทำได้จริง” แก้วใจทิ้งท้าย

Contact to : xlf550402@gmail.com


Privacy Agreement

Copyright © boyuanhulian 2020 - 2023. All Right Reserved.