เปิดอีกมุมของ “เมเปิ้ล พัชชุดาญ์” จากเด็กเนิร์ดสู่เซ็กซี่สตาร์ และก้าวใหม่ของนักธุรกิจสาว

จากนางแบบเซ็กซี่ที่เคยถูกตัดสินจากเพียงแค่ภาพลักษณ์ วันนี้ เมเปิ้ล พัชชุดาญ์ พันธุ์พิพัฒน์ ปรับลุคมาเป็นนักธุรกิจแบบเต็มตัว โดยล่าสุดก็เปิดสตูดิโอ VELA’ The Creation Studio พร้อมด้วยตำแหน่งประธานกรรมการ บริษัท เวลา เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด เป็นผู้ผลิตภาพยนต์ และให้บริการสตูดิโอแบบครบวงจร ที่ตั้งใจปั้นขึ้นจากประสบการณ์ในวงการบันเทิงกว่า 17 ปี พร้อมเปลี่ยนตัวเองจากเบื้องหน้า สู่เบื้องหลังอย่างเต็มตัว

เมเปิ้ล เปิดอีกมุมของตัวตนที่มีภาพลักษณ์สาวเซ็กซี่มั่นใจเคลือบไว้ว่า “ชีวิตจริงคือทำงานเสร็จกลับบ้าน ชอบดูหนัง ชอบอ่านหนังสือ ไม่เที่ยวกลางคืน ไม่กินเหล้า จะกินก็เพื่อเข้าสังคมแค่นั้น”

จากเด็กเนิร์ดที่เลิกเรียนแล้วไปเรียนพิเศษต่อ เข้านอน 4 ทุ่ม แต่จับพลัดจับผลูได้เข้าวงการบันเทิงจากการประกวด โดยเฉพาะเวทีเซ็กซี่ที่ทำให้ชื่อของเธอดังเปรี้ยงขึ้นมาในชั่วข้ามคืน

“ตอนนั้นเพื่อนชวนไปประกวดแบบขำๆ พ่อก็มารู้ตอนที่ได้แหน่งแล้ว แล้วก็มีคนบอกจะให้เอาเราออกจากวงตระกูลเลย เพราะตอนนั้นคนมองว่าแรง แต่เราคิดว่าเรารู้กาละเทศะ เปิ้ลเองไม่เคยมาใส่ชุดชั้นในแล้วถ่าย ถ้าไม่ใช่การทำงาน”

“พูดง่ายๆ เพราะว่าการเข้ามาในวงการบันเทิง คนจำได้จากเมเปิ้ล แม็กซิม ภาพจะติดตาทุกคนไปตลอดชีวิต”
เมื่อถามว่าเคยคิดอยากจะลบภาพสาวเซ็กซี่บ้างหรือไม่ เมเปิ้ล ก็ว่า “อะไรที่ผ่านมาแล้วดีเสมอ ถ้าไม่มีเปิ้ลวันนั้น ก็ไม่มีเปิ้ลวันนี้ก็ได้”

แต่ความเป็นนักวางแผนและสายบริหารอาจเป็นสิ่งที่อยู่ในสายเลือด เพราะคุณพ่อของเธอเป็นนักธุรกิจที่ทำกิจการส่งออกยางพารา เคยเปิดโรงหนัง เป็นอดีตเคยนายกเทศมนตรีของอำเภอ ทำให้เมเปิ้ลซึมซับวิธีคิดแบบคนทำงานจริงตั้งแต่เด็ก

จนเมื่ออายุประมาณ 30 พ่อก็มาบอกว่าต้องทำอะไรสักอย่างนึง ต้องมีธุรกิจอะไรที่เป็นของตัวเอง เราก็เลยมองจากสิ่งที่เราชอบ และพ่อก็ชี้ให้เห็นถึงธุรกิจบันเทิงที่ตัวเธอโลดแล่นมานานถึง 17 ปี ว่าน่าจะได้เรียนรู้การทำงานและเป็นอะไรที่เหมาะสมแล้ว

“จริงๆ พ่อเปิ้ลเคยเปิดโรงหนังที่เป็น สแตนอโลน ที่นครศรีธรรมราช ตั้งแต่ยังไม่มีค่ายโรงหนังใหญ่ๆ ก็ขอความรู้จากคุณพ่อด้วยแล้วก็มาเปิดบริษัทภาพยนตร์ เปิ้ลได้ไอเดียจากเขามาเยอะ เรียนรู้เขาก็สอนหลายอย่างว่า ลูกต้องเป็นคนแบบนี้ ต้องทำธุรกิจยังไง”

จนได้ขยับขยายมาเป็นสตูดิโอครบวงจรแบบทุกวันนี้ “เปิ้ลมองว่าตอนนี้มันเป็นเทรนด์ของการถ่ายรูป รูปมันเป็นด่านหน้าของทุกคน คนเราไม่ได้รู้จักกันเลย บางคนเห็นไอจีคนนี้สวย เฟสบุ๊กคนนั้นดี มันก็มาจากรูปทั้งนั้น แล้วที่นี่ก็สามารถทำรูปถ่ายรูปให้กับทุกคนได้ตามแบบที่ทุกคนต้องการ”

“เรามีทั้งโปรดักชั่น มีช่างภาพ มีเสื้อผ้าหน้าผม มีตัดต่อ มีทุกอย่างครบเลย ทำคลิปให้ด้วยก็ได้ คิดคอนเทนท์ เป็น one stop service ที่ลูกค้าแทบไม่ต้องเตรียมอะไรมาเลยนอกจากตัวเอง แล้วเรามีฉากให้เลือกเยอะที่สุด มีมากถึง 21 ฉาก แล้วก็มีสตูเปล่าให้เช่าด้วยค่ะ”

“ธุรกิจนี้ถามว่าลุยเดี่ยวไหม การทำธุรกิจคือการสร้างทีมงาน การบริหารคน บริหารองค์กร อันนี้คือสิ่งที่ยากที่สุด ตอนนี้ที่เปิ้ลมีทุกคนที่อยู่ที่นี่ น้องๆ หรือทีมงานทุกคนคือน่ารักทุกคน พร้อมที่จะสู้ไปกับเรา ทุกเรื่องก็มีผิดพลาดบกพร่อง แล้วก็แก้ไขกันบ้าง ทุกคนก็พร้อมที่จะช่วยเรา โชคดีที่ได้พี่น้องที่ทำงานที่ดีด้วย”

“อุปสรรคของธุรกิจคือ หนึ่งเลยธุรกิจคืองานบริการ แล้วงานบริการคือลูกค้าแต่ละคนที่เข้ามา ไม่เหมือนกันเลย เราก็เก็บตรงนั้นมาแก้ไข สองคือการบริหารคน ยากมาก 20 กว่าคน 20 เรื่อง หัวใจของธุรกิจนี้คือทีมงาน ถ้าไม่มีทีมงานที่ดีถึงแบบวันนี้ก็คงไปไม่ได้ดีกว่า เพราะทุกอย่างงานบริการต้องใช้คน”

แม้จะลงทุนไปกว่า 7–8 ล้านบาท ที่ยังไม่นับการตลาด และเพิ่งเปิดให้บริการเต็มรูปแบบเพียงไม่กี่เดือน แต่เธอก็มั่นใจว่า การวางกลยุทธ์แบบค่อยเป็นค่อยไป และเน้นความเข้าใจลูกค้า จะพาธุรกิจไปได้ไกลกว่าแค่ทำเพื่อเกาะกระแส

“คนก็ถามกันว่าทำไมไม่เปิดตัวบริษัทสักที ขอให้ประสบความสำเร็จกว่านี้สักนิดนึง หลายคนมองเรื่อง การประสบความสำเร็จของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนมองว่าแค่นี้ก็รู้สึกว่าก้าวจากคนที่อยู่เบื้องหน้า แล้วมาอยู่เบื้องหลัง เพื่อนๆก็มองว่าประสบความสำเร็จในระดับนึงแล้ว แต่สำหรับเปิ้ลคำว่าประสบความสำเร็จ ต้องเห็นผลประกอบการที่มันดี ดีในระดับที่เปิ้ลพอใจด้วย”

เมเปิ้ล ย้ำถึงจุดแข็งว่า ไม่ใช่แค่เรื่องเครื่องมือหรือฉากสวยๆ เท่านั้น แต่ “เปิ้ลเข้าใจเบื้องหลัง เพราะเคยอยู่เบื้องหน้า เรารู้ว่ามุมกล้องแบบไหนทำให้ดูดี รู้ว่าสไตล์ไหนเหมาะกับใคร ไม่ใช่แค่ถ่ายไปเฉยๆ แต่เราให้คำแนะนำได้ทุกจุด มีทีมงานมืออาชีพจริงๆ มีประสบการณ์จริงๆ ด้วย”

แม้ตอนนี้จะโฟกัสเต็มที่กับธุรกิจสตูดิโอแต่เมเปิ้ลก็ยังวางแผนจะกลับไปทำหนังอีกครั้ง โดยก่อนหน้านี้เธอได้ทำภาพยนตร์มาแล้วถึง 2 เรื่องคือ ‘Bad Boyz Band’ และ ‘ไชน่าทาวน์ ชะช่า’ แต่อาจจะเปลี่ยนแนวเป็นหนังแนวตั้งและคอนเทนต์ออนไลน์ที่ต้นทุนต่ำแต่เข้าถึงผู้ชมได้ง่ายกว่า

“หนังใหญ่อาจจะต้องใช้เวลานิดนึง อย่างที่บอกเงินมันลงทุนเยอะ คนหาก็หาเหนื่อย ไปทำหลายๆ อย่างเพื่อให้มาทำตรงนี้ให้ได้มันยาก เราต้องมองด้วยว่าเทรนด์อะไรมาทำแล้วคนในประเทศไทยจะชอบไหม มันยาก”

“หนังวันแรกวันเดียวเป็นวันที่ตัดสินชีวิตชะตากรรมของนายทุน วันแรกที่หนังเข้า ยอดไม่ถึงไม่ต้องคิดเลย วันแรกถ้าไม่สัก 5-10 ล้าน ไม่ต้องคิดถึงว่าเลย 50-100 ล้าน ไม่มีทางเป็นไปได้ ยิ่งกว่าลุ้นหวย สมมติกำเงิน 50 ล้าน มาทำหนังต้องมานั่งลุ้นว่าจะยังไง มันหนักมาก ไม่ใช่แค่ชะตาชีวิตของเราคนเดียว เป็นชะตาชีวิตของนายทุนคนอื่นๆด้วยจะเป็นยังไง ตอนนี้เลยยังไม่พร้อมหลายๆ อย่าง เราก็เลยเบรคไว้ก่อน”

“เราเลยมองเทรนด์อะไรที่กำลังมา ตอนนี้อยากทำละครแนวตั้งมากกว่า เปิ้ลเองยังชอบดูเลย มีพี่ๆ ที่เป็นผู้กำกับหลายคนก็เชิญนะ ก็ยังคิดอยู่ แต่เปิ้ลไม่มีเวลาจริงๆ คือแค่ทุกวันนี้เปิ้ลทำงาน 7 วัน ไม่มีวันหยุดเลย”

ทั้งนี้เมื่อถามถึงบทบาทความเป็นบอส เปิ้ล พัชชุดาญ์ บอกว่า “เปิ้ลไม่ปิดกั้นความคิดของพนักงาน ไม่เป็นคนคิดไปก่อนว่าจะเป็นคนอย่างนี้ เปิดโอกาสให้กับน้องๆทุกคน ชอบให้แสดงความคิดเห็นออกมา และสั่งงานครั้งเดียว ไม่จ้ำจี้จ้ำไช ตามงานต้องเสร็จ ถ้าไม่เสร็จโดน มีเหตุและผลให้กับทุกคน”

“ถามว่ายึดตัวเองเป็นหลักไหม ใช่ แต่ถ้าน้องๆ บอกว่า พี่เปิ้ลมันโบราณ มันเชย เอาเหตุและผลมาให้ว่าเพราะอะไร ไม่ยึดติดความคิดของตัวเองต้องเป็นแบบนี้ แล้วก็เป็นคนเพอร์เฟคชั่นนิส ละเอียด เน้นเรื่องความสะอาดมาก”

นี่คืออีกมุมของอดีตเซ็กซี่สตาร์ เมเปิ้ล พัชชุดาญ์ ที่เติบโตอย่างมั่นคง

Contact to : xlf550402@gmail.com


Privacy Agreement

Copyright © boyuanhulian 2020 - 2023. All Right Reserved.