ใครที่มาเยือนจังหวัดลำพูนในช่วงเดือนตุลาคมไปจนถึงวันที่10 พฤศจิกายน จะได้สัมผัสบรรยากาศสุดงดงามของ “เทศกาลโคมแสนดวง” ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ณ วัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร ปูชนียสถานคู่บ้านคู่เมืองลำพูน แสงแห่งศรัทธานับหมื่นดวงจากโคมที่ถูกแขวนเรียงรายทั่วลานวัด เปล่งประกายระยิบระยับยามค่ำคืน ราวกับแสงแห่งบุญที่ส่องนำทางชีวิต





ภาพองค์พระธาตุหริภุญชัยฯ บนโคมสุดงดงาม




ที่วัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร ยังอบอวลไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่ทรงคุณค่า เดิมทีบริเวณนี้เคยเป็น พระราชวังของพระเจ้าอาทิตยราช กษัตริย์องค์ที่ 33 แห่งนครหริภุญชัย ต่อจาก พระนางจามเทวี ปฐมกษัตริย์ผู้ทรงก่อตั้งเมือง พระองค์ได้ถวายราชวังให้เป็นสังฆาราม และโปรดให้สร้าง สิงห์คู่ขนาดใหญ่ประดับเครื่องทรง ตั้งตระหง่านอยู่ที่ซุ้มประตูด้านทิศตะวันออก เพื่อเฝ้ารักษาพระธาตุตามคติโบราณของชาวล้านนา ปัจจุบันวัดยังคงมีกำแพงสองชั้นตามผังของพระราชวังเดิม คือกำแพงรอบนอกและกำแพงรอบองค์พระธาตุ ซึ่งยังคงไว้ซึ่งร่องรอยแห่งความรุ่งเรืองในอดีตให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสถึงความยิ่งใหญ่ของแผ่นดินหริภุญชัย





บริเวณหน้า วัดพระธาตุหริภุญชัยฯ




ภาพองค์พระธาตุหริภุญชัยฯ บนโคมสุดงดงาม




เมื่อก้าวเข้าสู่เขตพุทธาวาส จะพบกับ วิหารหลวง ศิลปะล้านนาแบบเรียบง่ายแต่ทรงพลัง ซึ่งได้รับการบูรณะขึ้นใหม่หลังจากวิหารหลังเดิมพังทลายจากพายุเมื่อปี พ.ศ. 2466 ถัดไปคือความสง่างามของ องค์พระธาตุหริภุญชัย เจดีย์ทรงระฆังแบบล้านนาอันงดงาม ห่มด้วยทองจังโกสีทองสุกปลั่งทั่วทั้งองค์ ยามแสงอาทิตย์ลับขอบฟ้ามีนักท่องเที่ยวและประชาชนในนพื้นที่ถยอยเดินทางมายังวัดพระธาตุหริภุญชัยฯ โคมมากกว่าหมื่นดวงถูกประดับตกแต่งตั้งแต่บริเวณถนนหน้าวัดทอดยาวเข้ายังบริเวณในวัด ภายในวัดบรรยากาศคึกคักผู้คนต่างบูชาโคม เขียนคำอธิฐานอย่างบรรจง เพื่อเตรียมแขวนอยู่บริเวณองค์พระธาตุ นับเป็นความศรัทธาที่สืบสานมาอย่างต่อเนื่อง






ความเป็นมาของเทศกาลโคมแสนดวง พงษ์เทพ มนัสตรง ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดลำพูน ได้เล่าให้ฟังว่า เทศกาลโคมแสนดวง ที่วัดพระธาตุหริภุญชัยฯ เริ่มต้นขึ้นจากแนวคิดเมื่อปี 2555 ในโอกาสเฉลิมฉลองพุทธชยันตี 2600 ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า โดยพระเทพรัตนนายก เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหริภุญชัยฯ และเจ้าคณะจังหวัดลำพูน ได้มีดำริให้จัดเทศน์มหาชาติในวันยี่เป็งให้ยิ่งใหญ่กว่าทุกปี เพื่อเป็นพุทธบูชา ปีนั้นจึงย้ายสถานที่จัดจากภายในวิหารออกมาบริเวณหน้าวิหาร ซึ่งต้องอาศัยแสงสว่างในการจัดงาน จึงเกิดแนวคิดให้ จุดประทีปพันดวง ถวายบูชาองค์พระธาตุ โดยได้แรงบันดาลใจจากบันทึกในประวัติศาสตร์ที่กล่าวว่า พระราชชายาเจ้าดารารัศมีเคยนำประทีปพันดวงมาจุดบูชาองค์พระธาตุ





หน้าวิหารหลวง วัดพระธาตุหริภุญชัยฯ




บรรยากาศคึกคักในค่ำคืนที่เต็มไปด้วยโคมไฟ




จากแนวคิดเรื่องการจุดประทีป จึงพัฒนาเป็นการแขวนโคม เพื่อให้เกิดแสงสว่างทั่วบริเวณวัด โดยเริ่มต้นด้วยโคมพันดวง แต่กลับได้รับการตอบรับจากพุทธศาสนิกชนทั่วสารทิศ มีผู้ร่วมบูชามากถึง 3,000 ดวงในปีแรก และเพิ่มจำนวนขึ้นทุกปี จนกลายเป็นโคมแสนดวงที่สว่างไสวทั่ววัดพระธาตุหริภุญชัยฯ มาต่อเนื่องถึงปัจจุบันกว่า 13 ปี





สำหรับโคมที่นำมาแขวนในเทศกาลนี้มีรากฐานจากความเชื่อและประเพณีโบราณของชาวล้านนา ที่นิยมที่จะจุดประทีปโคมไฟหน้าบ้านในคืนช่วงยี่เป็ง เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาและต้อนรับการกลับมาของพระเวสสันดรตามตำนานเทศน์มหาชาติ โดยในอดีตจะเป็นโคมกระดาษ รูปแบบลักษณะก็จะแตกต่างตามจินตนาการ ไม่ได้มีลักษณะพิเศษเฉพาะ ที่ได้สืบสานประเพณีประเพณียี่เป็งมาจนถึงปัจจุบัน





เขียนคำอธิฐานบนโคมไฟ




โคมที่วัดพระธาตุหริภุญชัยฯ เริ่มพัฒนาให้มีเอกลักษณ์ เพื่อให้เหมาะกับการสวมหลอดไฟและใช้งานกลางแจ้งได้อย่างปลอดภัย พร้อมทั้งอบรมชาวบ้านในทุกอำเภอของลำพูนให้ทำโคมได้ตามมาตรฐาน ซึ่งช่วยสร้างรายได้ให้กับชุมชนในท้องถิ่น โดยโคมจะมีลักษณะที่เรียกว่าโคมรังมดส้ม หรือโคมรังมดแดง ที่มีการออกแบบลายพิเศษเป็น มีภาพขององค์พระธาตุหริภุญชัย เพื่อแยกโคมที่จัดทำโดยวัดออกจากของทั่วไป และให้ผู้บูชาได้ร่วมทำบุญอย่างถูกต้อง ส่วนโคมแบบอื่นๆก็จะมีเช่น โคมเงี้ยวที่ได้รับอิทธิพลจากชาวไทยใหญ่และพม่า โคมไห  ที่ประดับประดาอย่างวิจิตร เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา วัสดุที่ใช้ก็พัฒนาไปตามกาลเวลา จากเดิมที่เป็นกระดาษซึ่งไม่ทนฝน มาเป็นผ้าที่มีความแข็งแรงและสวยงามยิ่งขึ้น





ชาวต่างชาติร่วมแขวนโคม




นักท่องเที่ยวสุดน่ารักมาแขวนโคมที่วัดพระธาตุหริภุญชัยฯ




ในปี 2568 นี้ นับเป็นปีที่ 13 ของเทศกาลโคมแสนดวง และเป็นปีแรกที่ขยายพื้นที่การจัดงานออกไปจนเต็มถนนสี่เลนหน้าวัด ประดับโคมกว่า 20,000 ดวง หลังจากจบประเพณียี่เป็งโคมบางส่วนที่แขวนในวัด หลังจากวันที่ 10 พฤศจิกายน จะถูกยังส่งต่อให้วัดอื่นๆ ร่วมบูชา เพื่อกระจายแสงแห่งศรัทธาไปทั่วเมือง ส่วนบริเวณหน้าวัดจะถูกจัดต่อเนื่องไปจนถึงช่วงต้นมกราคม 2569  เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสบรรยากาศของแสงแห่งศรัทธา ที่เกิดจากพลังร่วมของคนลำพูนทั้งจังหวัด เทศกาลโคมแสนดวง ยังสว่างไสวไปถึงลานอนุสาวรีย์พระนางจามเทวี ความงดงามนี้จึงไม่เป็นเพียวภาพงดงามยามค่ำคืน แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความศรัทธา ความร่วมแรงร่วมใจ และภูมิปัญญาล้านนาที่สืบทอดจากอดีตจนถึงปัจจุบัน





บรรยากาศถนนเมืองลำพูน




นอกจากนี้ยังมีการจัดงานเทศกาลโคมไฟนานาชาติ ณ ศาลากลาง(หลังเก่า) จังหวัดลำพูน ตั้งแต่วันนี้- 10 พฤศจิกายน และร่วมสนุกกับงานสีสันศิลป์ ถิ่นลำพูน(Lamphun Light & Craft) โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)  สัมผัสเสน่ห์แสงแห่งวัฒนธรรม ผ่านศิลป์ร่วมสมัย เชื่อมโยงอดีตสู่ปัจจุบัน ณ ศาลากลาง (หลังเก่า) และถนนวังซ้าย จังหวัดลำพูน วันที่ 6 -11 พฤศจิกายนนี้










โคมไฟประดับตกแต่ง  ลานอนุสาวรีย์พระนางจามเทวี

Contact to : xlf550402@gmail.com


Privacy Agreement

Copyright © boyuanhulian 2020 - 2023. All Right Reserved.