กต.เผย ไทยจ่อแสดงบทบาทขับเคลื่อน สันติภาพ-ความเจริญ-การพัฒนา ห้วงประชุมอาเซียน
นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวแถลงข่าว เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ถึงการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 47 และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ 26-28 ตุลาคมนี้ ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
นายนิกรเดชกล่าวว่าในการประชุมสุดยอดอาเซียนในครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีอนุทิน ชาญวีรกูลเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเดินทางเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว โดยก่อนการประชุมระดับผู้นำจะเริ่มขึ้น จะมีการประชุมระดับรัฐมนตรีในวันที่ 24 – 25 ตุลาคม ซึ่งนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เดินทางไปถึงมาเลเซียเพื่อเข้าร่วมการประชุมแล้ว
ส่วนในการประชุมสุดยอดอาเซียนนี้ ไทยจะแสดงบทบาทในฐานะผู้เล่นยุทธศาสตร์สำคัญในการขับเคลื่อนสันติภาพ ความเจริญรุ่งเรือง และการพัฒนาโดยจะเน้น 4 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1. การส่งเสริมสันติภาพและเสถียรภาพ ไทยจะเสริมสร้างความเป็นแกนกลางของอาเซียน โดยการขยายความร่วมมือกับหุ้นส่วนภายนอก 2. การสร้างภูมิภาคที่มั่นคงและปลอดภัย ไทยจะส่งเสริมความมั่นคงของมนุษย์ แก้ไขปัญหาข้ามพรมแดนที่ส่งผลต่อชีวิตประชาชน เช่น เรื่องการหลอกลวงทางออนไลน์ การค้ามนุษย์ มลพิษ หมอกควัน โรคระบาด และภัยพิบัติทางธรรมชาติ 3. การพัฒนาเศรษฐกิจอย่างทั่วถึง ไทยจะส่งเสริมการบูรณาการทางเศรษฐกิจในอาเซียน และยกระดับความตกลงการค้าเสรีกับประเทศคู่ค้าต่างๆ พร้อมทั้งขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัล โดยจะเร่งรัดจัดทำกรอบความร่วมมือความตกลงเศรษฐกิจดิจิทัลในอาเซียนให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และ4. การเปลี่ยนแปลงเพื่อความยั่งยืน ไทยจะผลักดันความร่วมมือภายในอาเซียนและภาคีภายนอก เช่น การเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดและการเงินสีเขียว
ทั้งนี้ คาดว่าในห้วงการประชุมอาเซียนจะมีโอกาสหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในภูมิภาค เช่น สถานการณ์ในเมียนมา ทะเลจีนใต้ ตะวันออกกลาง และสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน
นายนิกรเดชพูดถึงกรณีที่สมเด็จฯ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ถึงการใช้แผนที่ 1 : 200,000 โดยยืนยันว่าในการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (เจบีซี) สมัยวิสามัญ ครั้งล่าสุดเป็นการดำเนินการบนพื้นฐานของการสำรวจหาหลักเขตแดนเดิมที่มีอยู่แล้ว ไม่ได้หารือเกี่ยวกับประเด็นแผนที่ 1 ต่อ 2 แสนแต่อย่างใด การโพสต์ข้อความดังกล่าวจึงอาจถือได้ว่าไม่มีน้ำหนักใด ๆ ทั้งสิ้น เนื่องจากนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ไม่ได้ร่วมเป็นคณะกรรมการ หรืออยู่ในที่ประชุม JBC โดยระบุว่า ความหนักแน่นของข้อสรุปการประชุม ย่อมอยู่ที่ประธานการประชุมฯ และคณะกรรมการ ซึ่งประกอบด้วย ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคในด้านการกำหนดเขตแดน
ส่วนการเตรียมสร้างรั้วในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา นั้น นายนิกรเดชกล่าวย้ำแถลงการณ์ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแถลงไปก่อนหน้านี้ว่าฝ่ายไทยจะเริ่มดำเนินการสร้างรั้วในบริเวณที่มีความชัดเจนของเส้นเขตแดนแล้ว และจะอยู่ภายในเขตอธิปไตยของไทย เพื่อรักษาความปลอดภัยความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดน ตลอดจนป้องกันภัยคุกคามข้ามแดนระหว่างทั้งสองประเทศ
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ สรุปว่าขณะนี้ กลไกทวิภาคีกำลังดำเนินไปด้วยดี มีความคืบหน้าและมีพัฒนาการที่เป็นรูปธรรม ฝ่ายไทยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถเจรจาหารือกันต่อไปด้วยความจริงใจและสุจริตใจ เพื่อสร้างบรรยากาศที่เอื้ออำนวยต่อการฟื้นฟูความสัมพันธ์ให้กลับมาเป็นปกติได้ต่อไป
Contact to : xlf550402@gmail.com
Copyright © boyuanhulian 2020 - 2023. All Right Reserved.