‘เอสเอ็มอีแบงก์’ ปักธงปี 68 ปล่อยสินเชื่ออุ้มผู้ประกอบการเอสเอ็มอี 7.5 หมื่นล้านบาท ดันเงินหมุนเวียนสู่เศรษฐกิจ 3.43 แสนล้านบาท รักษาการจ้างงาน 1.64 แสนราย 9 เดือนอัดฉีดแล้ว 5.73 หมื่นล้าน ขณะที่ไตรมาส 4 คาดปล่อยสินเชื่อได้ 2 หมื่นล้านบาท พร้อมโชว์ NPL ที่ 8.7% ประเมินภาษีสหรัฐฯ ไม่สะเทือนเอสเอ็มอีไทยมาก หลังเร่งยกระดับ ปรับตัว เพิ่มประสิทธิภาพให้แข็งแกร่งมากขึ้น

27 ต.ค. 2568 – นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D BANK เปิดเผยว่า ธนาคารมั่นใจว่าปีนี้จะพาผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ตามเป้าหมายกว่า 75,000 ล้านบาท สอดรับนโยบาย Quick-Big-Win โดยจะช่วยเอสเอ็มอีเสริมสภาพคล่อง ผ่านสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำพิเศษคงที่ 3% ต่อปี ตลอดช่วง 3 ปีแรก และจะทำให้เกิดการกระจายประโยชน์เงินหมุนเวียนสู่เศรษฐกิจฐานรากทั่วประเทศกว่า 343,500 ล้านบาท และช่วยรักษาการข้างงานในระบบเศรษฐกิจกว่า 164,800 ราย ขณะเดียวกันคาดว่าจะรักษาระดับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ที่ระดับปัจจุบันหรือ 8.7% ได้

สำหรับแนวโน้มการปล่อยสินเชื่อในช่วงไตรมาส 4/2568 คาดว่าจะปล่อยสินเชื่อสนับสนุนเอสเอ็มอีได้ราว 20,000 ล้านบาท หลังจาก 9 เดือนแรกของปี 2568 (ม.ค.-ก.ย.) สามารถปล่อยสินเชื่อได้แล้วกว่า 57,300 ล้านบาท ซึ่งมองว่าหากแนวโน้มเศรษฐกิจยังสามารถเดินหน้าต่อไปได้ โดยไม่มีปัจจัยเสี่ยงเพิ่มเติมเข้ามากระทบ ก็เชื่อว่าธนาคารจะสามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมาย

นายพิชัต กล่าวถึงผลกระทบจากมาตรการภาษีสหรัฐฯ ที่จะมีต่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย ว่า ยอมรับว่าปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวอาจจะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการบ้าง แต่ไม่มากนัก โดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอีที่เป็นซัพพลายเชนของธุรกิจใหญ่ ซึ่งที่ผ่านมาธนาคารได้ให้การสนับสนุนผู้ประกอบการในหลายเรื่องเพื่อให้เอสเอ็มอีไทยเข้มแข็งมากขึ้น และสามารถปรับตัวได้ ยกระดับตัวเองขึ้นได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ไม่ได้รับผลกระทบที่รุนแรง

“ธนาคารมุ่งเป็นกลไกสำคัญของภาครัฐในการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยให้ก้าวข้ามผ่านวิกฤติ ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยท้าทายทั้งภายในและนอกประเทศ ทั้งเรื่องภาษีสหรัฐฯ การล้นทะลักของสินค้าต่างประเทศ ภัยธรรมชาติ และสถานการณ์ตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นต้น ผ่านแนวทางพัฒนาคู่เติมทุน รวมถึงแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน ภายใต้การให้บริการที่เข้าใจและไปถึงถิ่น” นายพิชิต กล่าว

สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 3/2568 ธนาคารสนับสนุนพาผู้ประกอบการ เข้าถึงแหล่งเงินทุนกว่า 57,300 ล้านบาท สูงกว่า 35.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ช่วยสร้างเงินทุนหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 262,600 ล้านบาท ควบคู่กับการช่วยพัฒนาครบวงจร โดยเฉพาะมุ่งเพิ่มรายได้ ขยายช่องทางตลาด ลดต้นทุน ส่งเสริมปรับตัวพร้อมเข้าสู่ระบบบัญชีภาษี และยกระดับธุรกิจสู่ยุคดิจิทัล ผ่านกิจกรรมออนไซต์ควบคู่ออนไลน์ด้วยแพลตฟอร์ม DX by SME D BANK ใช้บริการได้สะดวก ทุกที่ ทุกเวลา ตลอด 24 ชั่วโมง รวมกว่า 15,300 ราย

นอกจากนี้ ยังได้เร่งช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มเปราะบาง พลิกฟื้นปรับปรุงกิจการกลับเข้ามาดำเนินธุรกิจกว่า 16,000 ราย คิดเป็นวงเงินกว่า 33,590 ล้านบาท ส่งผลให้ภารวมบริหารจัดการสินเชื่อไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) มีประสิทธิภาพ ลดลงเหลือ ณ สิ้นเดือน ก.ย. 2568 อยู่ที่ 8.7% โดยเป็น NPL หลังออกจากแผนฟื้นฟูเมื่อปี 2568 เพียง 3.8% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย NPL สินเชื่อเอสเอ็มอีในระบบธนาคารพาณิชย์ ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 7.8% ส่วนปี 2569 ธนาคารจะเร่งเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยให้ NPL มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง