พสกนิกรจำนวนมากเข้าถวายอาลัย “สมเด็จพระพันปีหลวง” ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง วันแรกยอดทะลุ 8 พันคน
วันที่ 10 พ.ย. ตามที่สำนักพระราชวังได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ภายหลังจากการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลครบ 15 วัน โดยจะเปิดให้เข้ากราบถวายบังคมทุกวัน เวลา 08.00-21.00 น. เริ่มตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 9 พ.ย. 2568 เป็นต้นไป
โดยจะเปิดเป็น 4 ช่วงเวลาดังนี้ ช่วงที่ 1 เวลา 08.00-10.45 น. ช่วงที่ 2 เวลา 12.00-16.45 น. ช่วงที่ 3 เวลา 17.45-18.30 น. และช่วงที่ 4 เวลา 19.45-21.00 น.
ซึ่งบรรยากาศในเช้าวันนี้มีประชาชนแต่งกายด้วยชุดไว้อาลัย สุภาพ เรียบร้อย เดินทางมาเฝ้ารอเข้าจุดคัดกรองจำนวนมากตั้งแต่เช้าตรู่ ทั้งนี้ กทม.เปิดให้ประชาชนเข้าจุดพักคอยได้ตั้งแต่เวลา 07.30 น. จากนั้นได้ทยอยเดินผ่านจุดคัดกรองต่าง ๆ เข้าสู่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท แล้วถวายความเคารพเบื้องหน้าพระโกศด้วยความสงบเรียบร้อย

ในการนี้ กรุงเทพมหานครจัดเจ้าหน้าที่และจิตอาสาร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยและอำนวยความสะดวกอย่างรอบด้าน ทั้งการจราจร การแพทย์ฉุกเฉิน การรักษาความสะอาดและความปลอดภัย รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครประชาสัมพันธ์คอยแนะนำจุดบริการ จุดพักคอย และเส้นทางเข้าออกอย่างเป็นระบบ ซึ่งจุดพักคอยสามารถรองรับประชาชนได้สูงสุด 9,000 คน พร้อมบริการน้ำดื่ม ห้องสุขา และเจ้าหน้าที่ดูแลตลอดเวลา เพื่อให้การเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติ

น.ส.รมยาณี ลอยเมฆ อายุ 42 ปี ข้าราชการ เผยว่า เดินทางมาจากนราธิวาสกับครอบครัว ตั้งใจอย่างยิ่งที่จะเดินทางมาถวายความอาลัยต่อสมเด็จพระพันปีหลวง คงเป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่เราจะได้มาถวายอาลัย แสดงความจงรักภักดีต่อพระองค์ท่าน ครั้งแรกที่รู้ข่าวการเสด็จสวรรคตรู้สึกเสียใจมากกับการจากไปของพระองค์ท่าน เมื่อก่อนตอนที่ยังทรงแข็งแรง พระองค์ท่านเสด็จฯ นราธิวาสทุกปี แล้วคุณแม่เราก็ทำจักสานย่านลิเภา ที่พระองค์ท่านมีโครงการให้ชาวบ้าน นำครูมาสอน เป็นประโยชน์ต่อชาวบ้านมาก ๆ ทำให้พวกเรามีอาชีพเสริมใช้เวลาว่างทำกระเป๋าย่านลิเภา ได้รายได้เพิ่ม เป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ เราจึงจะสืบสานสิ่งเหล่านี้ของพระองค์ท่านต่อไป

ด้าน น.ส.จามรี นนทธรรม อายุ 67 ปี กล่าวว่า เราเดินทางมาจากอนุสาวรีย์ นัดเพื่อน ๆ เข้าถวายความอาลัยสมเด็จพระพันปีหลวงพร้อมกัน โชคดีมากที่สำนักพระราชวังเปิดให้เข้าถวายความอาลัยเบื้องหน้าพระโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท รู้สึกตื้นตันมากที่ได้มา เพราะเรารักพระองค์ท่านมาก พระองค์ท่านงาม มีความเป็นศิลปิน ชอบในเรื่องผ้าไทยที่พระองค์ท่านมีพระราชปณิธานในการส่งเสริมเรื่องนี้ ชื่นชมที่พระองค์ท่านมีพระเมตตาส่งเสริมงานด้านศิลปาชีพ ผ้าที่ชาวบ้านทำเป็นสิ่งธรรมดา แต่พระองค์ท่านก็นำมาสร้างมูลค่า ทำให้ทั่วโลกรู้จักได้ เราชอบดูพระฉายาลักษณ์สมัยที่พระองค์เสด็จฯ เยือนต่างประเทศ ฉลองพระองค์สวยมาก และพระองค์ก็ทรงน่ารักมาก ๆ ทำให้เราอยากมาชมพิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถด้วยวันนี้ อยากชมความงามของฉลองพระองค์
“สิ่งที่พระองค์ทำก็เป็นประโยชน์ต่อพสกนิกรมาก โดยเฉพาะชาวบ้านที่อยู่ต่างจังหวัด พระองค์ท่านทำให้ทุกคนมีอาชีพ มีรายได้ มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซาบซึ้งในสิ่งที่พระองค์ท่านทำมาก เราในฐานะประชาชนตัวเล็ก ๆ ก็จะสนับสนุนผ้าไทยต่อไป วันนี้ที่ได้มาถวายความอาลัยนั้น เจ้าหน้าที่จัดจุดคัดกรองดีมาก สะดวกและใช้เวลาไม่นาน” น.ส.จามรีกล่าว
ทั้งนี้ในวันแรกที่เปิดให้ประชาชนเข้าถวายอาลัย ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทนั้น พบว่ามีประชาชนเข้ากราบถวายบังคมรวมทั้งสิ้น 8,370 คน (ข้อมูลวันที่ 9 พ.ย. 68 เวลา 21.00 น.)
นอกจากนี้ทางสำนักพระราชวังยังได้จัดให้มีจุดบริการยืม-คืนเครื่องแต่งกายสุภาพ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่แต่งกายไม่ครบถ้วนตามระเบียบ
สำหรับการแต่งกายของผู้ที่จะมากราบถวายบังคมพระบรมศพ ขอความร่วมมือให้ทุกคนโปรดแต่งกายสุภาพไว้ทุกข์ (สีดำ, ขาว) เสื้อคอปก งดแขนกุด ชุดชาวเขาสำหรับชาวเขา ชุดลูกเสือสำหรับลูกเสือ สุภาพสตรีต้องสวมกระโปรงผ้าหรือผ้าถุงเท่านั้น งดสวมกระโปรงยีนส์ หรือกางเกงยีนส์

Contact to : xlf550402@gmail.com
Copyright © boyuanhulian 2020 - 2023. All Right Reserved.