หากพูดถึงสถานที่จัดแสดงไฟในสวนที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของไทย ชื่อของ ณ สัทธา อุทยานไทย อำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี ย่อมถูกนึกถึงเป็นลำดับต้นๆ ไม่เพียงเพราะเดินทางสะดวกจากกรุงเทพฯ แต่ยังเป็นจุดหมายที่นักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาเพื่อสัมผัสงานศิลป์ท่ามกลางธรรมชาติบนพื้นที่กว่า 30 ไร่ที่ถูกเนรมิตด้วยแสงสีและความคิดสร้างสรรค์ ทำให้ผู้มาเยือนหลายคนอยากหวนกลับมาอีกครั้งครั้งแล้วครั้งเล่า





และในปีนี้ ณ สัทธา ร่วมกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เตรียมยกระดับประสบการณ์ให้การเดินทางคุ้มค่ายิ่งกว่าเดิม กับงาน “Nasatta Light Festival Winter Illumination 2026” ภายใต้ธีม Fairy Dreams หรือ “สรวงสวรรค์นางฟ้า” ที่นำความเชื่อและเสน่ห์แบบไทยมาตีความใหม่ ผ่านงานออกแบบร่วมสมัยที่เกิดจากฝีมือคนไทยอย่างภาคภูมิใจ เทศกาลนี้พร้อมพาคุณหลุดออกจากความวุ่นวายในชีวิตประจำวัน ก้าวสู่ดินแดนเทพนิยายที่ทุกย่างก้าวเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ความแปลกใหม่ และความงดงามที่เกินจินตนาการ





Rice Memory รวงข้าว แผ่นดินทอง




เมื่อเดินทางมาชมงานจัดแสดงไฟ บอกได้เลยว่าช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดคือ ยามค่ำคืน เพราะทันทีที่ฟ้าเริ่มมืด แสงไฟนับล้านดวงจะค่อยๆ เปล่งประกาย เปลี่ยนบรรยากาศรอบตัวให้เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ที่น่าตื่นตา ปีนี้ ณ สัทธา ยังคงเตรียม จุดถ่ายภาพมากถึง 24 โซน  ประกอบด้วย โซน 1 Thai Glorious Era สรรเสริญคุณพระมหากษัตริย์ไทยผู้ปรีชาทั้ง 3 พระองค์ ได้แก่ พระนเรศวรมหาราช พระเจ้าตากสินมหาราช และสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5, โซน 2 Season Change, โซน 3 Rice Memory รวงข้าว แผ่นดินทอง, โซน 4 Dream Scape (ภาพฝัน)





Crystal Icicle แสงสว่างจากหินงอกหินย้อยที่เรืองรองระยิบระยับ




โซน 5 Thai Spirit, โซน 6 Sukhothai and Fairy Lily (โบสถ์สุโขทัย), โซน 7 Sacred Wave, โซน 8  Mystical Entrance (ประตูเมืองลับแล), โซน 9 Bliss Blossom (สีสันแห่งดอกไม้) , โซน 10 Magic Cave (ถ้ำพิศวง), โซน 11 Crystal Icicle  (คริสตัส ไอซิเคิล), โซน 12 The Magic Pond  (สระอโนดาต), โซน 13 Milky Way (ทางช้างเผือก), โซน 14 Joyful Light Field (ทิวทัศน์ของเขาพระสุเมรุและป่าหิมพานต์) ภาคต่อของงานจัดแสงไฟปี 2025, โซน 15 Whispering Rose II + Glass Path on the flower field (เสียงกระซิบของดอกกุหลาบ)






สียงกระซิบของดอกกุหลาบ เส้นทางเดินบนกระจก




 โซน 16 Fairy Wing (ปีกแห่งนางฟ้า), โซน 17 Galaxy Cascade (น้ำตกจักรวาล), โซน 18 Breath of Light Tunnel (อุโมงค์แห่งแสง), โซน 19 Glittering Song (เสียงดนตรีเริงระบำ), โซน 20 Crystal Melody (ท่วงทำนองและผลึกแสง),  โซน 21  Life -Spiral – Transformation (ชีวิต การผันเปลี่ยน และการเกิดใหม่), โซน 22 Worship Flame and Giant Lotus  (เพลิงศรัทธาและดอกบัวยักษ์),  โซน 23 Fairy Tree (ต้นไม้อารักษ์) และโซน 24 Bua Kome (บัวคำ)





Fairy Wing ปีกแห่งนางฟ้า แสงไฟและดอกไม้ และGalaxy Cascade น้ำตกจักรวาล




ปีนี้การเที่ยวชมงานแสงไฟที่ ณ สัทธา สนุกขึ้นกว่าทุกครั้ง เพราะทางอุทยานได้ออกแบบโซนใหม่ถึง 8 โซน พร้อมปรับดีไซน์อีกหลายพื้นที่ให้ไม่ซ้ำกับปีที่ผ่านมา ทำให้ตลอดเส้นทางการเดินชม เหมือนได้เปิดประสบการณ์ใหม่ในทุกก้าวราวกับกำลังท่องไปในดินแดนที่เปลี่ยนฉากไปเรื่อยๆ และการผจญภัยในค่ำคืนนี้ขอเริ่มต้นที่ โซน 3 Rice Memory  รวงข้าว แผ่นดินทอง เมื่อเดินเข้าไป คุณจะได้พบกับแทงไฟเรียวยาวสีทองที่ถูกจัดเรียงและมัดรวมกันให้ดูคล้าย รวงข้าวสุกปลั่ง ที่เปล่งประกายท่ามกลางความมืด ภาพตรงหน้าไม่เพียงสวยงาม แต่ยังเปี่ยมด้วยความหมาย รวงข้าวแต่ละรวงเปรียบเสมือนผู้คนที่อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข เจริญรุ่งเรืองในผืนแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรธรรมชาติ





ชีวิต การผันเปลี่ยน และการเกิดใหม่




โซนนี้ยังสะท้อนถึงความรัก ความสามัคคี และน้ำใจที่ผู้คนมีต่อกัน ภายใต้พระบารมีและพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ดินแดนแห่งนี้จึงไม่เพียงเน้นความเจริญทางวัตถุ แต่ยังให้คุณค่ากับการปลูกฝังจิตใจ ผู้คนดำรงชีวิตด้วยแผ่นดินธรรม อันหมายถึงการยึดมั่นในคุณธรรม ศีลธรรม และการทำความดีเป็นพื้นฐาน





Crystal Melody ท่วงทำนองและผลึกแสง




เดินเข้าสู่ โซน 4 Dream Scape ภาพฝัน ที่มีสะพานทอดยาวกลางผืนน้ำที่เปล่งประกายด้วยดอกบัวสีฟ้า แสงสะท้อนระยิบระยับราวกับก้าวเข้าสู่โลกแห่งความฝัน โซนนี้ได้แรงบันดาลใจจากบทเพลงพระราชนิพนธ์ ความฝันอันสูงสุด ซึ่งสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงทรงมอบหมายให้ ท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาค เขียนบทกลอน และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงประพันธ์ทำนอง บทเพลงนี้กล่าวถึงความเสียสละของผู้คนที่ทำเพื่อประโยชน์และความมั่นคงของประเทศ แม้จะไม่ปรากฏต่อสายตา แต่ความดีนั้นยังคงส่องสว่างและงดงามอยู่เสมอ





ต้นไม้อารักษ์




มาถึงโซน 11 Crystal Icicle  คริสตัล ไอซิเคิล รู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในถ้ำลึกลับที่มืดมิด แต่กลับเต็มไปด้วยแสงสว่างจากหินงอกหินย้อยที่เรืองรองระยิบระยับราวกับคริสตัลธรรมชาติ ทุกย่างก้าวเหมือนกำลังสำรวจความงดงามลึกลับที่ซ่อนอยู่ในโลกแห่งเวทมนตร์ จากนั้นเดินต่อไปยัง โซน 15 Whispering Rose II + Glass Path on the Flower Field  เสียงกระซิบของดอกกุหลาบ เส้นทางเดินบนกระจกที่ทอดผ่านทุ่งดอกกุหลาบเปล่งประกาย ชวนให้เราได้หยุดมองและจินตนาการถึงเรื่องราวของนางฟ้ามัทนา นางฟ้าที่สวยงามแต่โชคร้ายในความรัก ถูกชายคนรักหักหลัง และถูกเทพบุตรสาปให้กลายเป็นดอกกุหลาบดอกแรกของโลก โซนนี้เต็มไปด้วยแสงสีและบรรยากาศที่ทั้งโรแมนติกและแฝงความเศร้า





.บัวคำ ตำนานสาวงามที่เกิดจากดอกบัว




ในบริเวณเดียวกันยังจัดให้เชื่อมโยงกับโซนที่ 15 คือ โซน 16 Fairy Wing  ปีกแห่งนางฟ้า แสงไฟและดอกไม้หลากสีสันสร้างภาพปีกของนางฟ้าเทพธิดาที่โบยบิน เชื่อมต่อกับโลกสวรรค์และความฝันอย่างสวยงาม ทำให้เรารู้สึกเหมือนกำลังลอยไปกับนางฟ้า ที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ภูเขา ป่าไม้ และ โซน 17 Galaxy Cascade น้ำตกจักรวาล น้ำตกกลางป่าพิมพานต์ที่ส่องประกายระยิบระยับราวกับคลื่นน้ำในจักรวาล เสียงน้ำไหลและแสงสว่างสร้างความรู้สึกสงบและตื่นตา






ดอกบัวสีชมพูเบ่งบานทั่วลานพระพุทธรูปยุคอยุธยา-อู่ทอง




ระยิบระยับกับโซน 20 Crystal Melody ท่วงทำนองและผลึกแสง เมื่อก้าวเข้ามาเราจะได้สัมผัสกับหินคริสตัลหลากสีที่เรืองแสงระยิบระยับราวกับมีชีวิต ทุกก้อนหินเหมือนกำลังขับขานเพลงอันไพเราะ ผสมผสานกับเสียงดนตรีที่สะท้อนความงดงามอย่างลงตัว ทำให้ทุกย่างก้าวเหมือนเรากำลังเดินอยู่ท่ามกลางท่วงทำนองของแสงและเสียง ติดกันคือ โซน 21 Life – Spiral – Transformation ชีวิต การผันเปลี่ยน และการเกิดใหม่ เส้นทางเดินทอดผ่านต้นไม้ที่ปลายยอดคว่ำลง เหล่าผีเสือบินรายล้อมราวกับกำลังพาเราเข้าไปสำรวจความลับของธรรมชาติ โซนนี้ได้แรงบันดาลใจจากคติทางพระพุทธศาสนาเรื่อง ทุกสิ่งเป็นอนัตตา ไม่มีสิ่งใดคงอยู่เป็นนิรันดร์ ทุกสิ่งล้วนเปลี่ยนแปลง เมื่อเราเข้าใจวัฏจักรความเสื่อมของชีวิต ก็สามารถมองเห็นหนทางสู่ความเบิกบานและการหลุดพ้น





สักการะพระพุทธรูปสมัยเชียงแสน




ปิดท้ายเส้นทางที่ โซน Fairy Tree (ต้นไม้อารักษ์) ความเชื่อเรื่องจิตวิญญาณที่อาศัยอยู่ในต้นไม้ เป็นหนึ่งในเรื่องเล่าปรัมปราและความเชื่อท้องถิ่นที่ทุกพื้นที่ทั่วโลกมีคล้ายกัน แม้มีความแตกต่างในรายละเอียดแต่สิ่งที่เหมือนกันคือความพยายามของมนุษย์ที่ต้องการจะหาคำอธิบายให้กับความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ โซนนี้ได้มีการดีไซน์ใหม่ให้ความรู้สึกราวกับต้นไม้ในป่าหิมพานต์ ที่เราสามารถใส่ปีกนางฟ้าไปยืนถ่ายภาพได้ด้วย และโซน 24 Bua Kome (บัวคำ) ตำนานพื้นบ้านจากภาคเหนือของประเทศไทยเกี่ยวกับสาวงามที่เกิดจากดอกบัว นางมีความงามเป็นเลิศและกลิ่นกายหอมหวาน  ค่ำคืนการเที่ยวชม Nasatta Light Festival Winter Illumination 2026 เต็มไปด้วยความประทับใจและความมหัศจรรย์ราวกับเดินอยู่ในโลกแห่งความฝันเลย





ม่านฟ้าห้อยระย้าอยู่บริเวณประตูทางเข้าเพื่อกราบพระพุทธรูปสมัยสุโขทัย




ดอกกุหลาบเหนือจินตนาการเปล่งประกาย

Contact to : xlf550402@gmail.com


Privacy Agreement

Copyright © boyuanhulian 2020 - 2023. All Right Reserved.