ท่องเที่ยวไฮซีซั่นคึกคัก UHG เผยอัตราเข้าพักพุ่ง 95% เรตราคาห้องพักยังขยับยาก รุกปรับกลยุทธ์เพิ่มยอดขายอาหาร-เครื่องดื่มหนุนรายได้ เชื่อปีหน้าธุรกิจโรงแรมดีกว่าปีนี้ เร่งก่อสร้างโครงการใหม่ “พญาไท-เอกมัย-ลาดพร้าว-สุขุมวิท 8” รองรับการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว ปลื้มปีนี้รับอานิสงส์การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ 2025 โรงแรมในเครือเป็น Official Hotel ถึง 2 แห่ง “รามคำแหง-ลาดพร้าว” ชี้เป็นโอกาสสร้างแบรนด์ควบคู่รายได้โค้งท้ายปลายปี

นายวุฒิพล ถาวรธวัช กรรมการผู้จัดการ บริษัท เออร์เบิน ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป จำกัด (Urban Hospitality Group) หรือ UHG ผู้ลงทุนและบริหารโรงแรมภายใต้แบรนด์เดอะ ควอเตอร์ (The Quarter) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ธุรกิจโรงแรมในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีมีแนวโน้มคึกคักและมีดีมานด์เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดยนอกจากบรรยากาศการท่องเที่ยวในช่วงโลว์ซีซั่นแล้ว ปีนี้ประเทศไทยยังมีมหกรรมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ 2025 ที่ใช้สนามแข่งขันหลักในกรุงเทพฯและในอีก 2-3 จังหวัดหลัก

ปรับกลยุทธ์เพิ่มรายได้

โดยสถานการณ์ที่ดีต่อเนื่องในไตรมาสสุดท้ายนี้ทำให้เชื่อมั่นว่าภาพรวมการท่องเที่ยวของประเทศไทยเติบโตต่อเนื่องในปี 2569 โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากตลาดระยะไกล ทั้งยุโรป อเมริกา รวมถึงอิสราเอล อินเดีย ปากีสถาน บังกลาเทศ คาซัคสถาน ฯลฯ

สำหรับภาพรวมของกลุ่ม UHG นั้นในไตรมาสสุดท้ายนี้พบว่าสามารถปรับขึ้นราคาห้องพักได้เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2 แต่ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว โดยมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยประมาณ 95% ดีกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกันยังปรับกลยุทธ์ด้วยการเน้นขายอาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งทำการตลาดเพื่อจูงใจให้ลูกค้าที่เข้าพักมีการใช้จ่ายในโรงแรม เนื่องจากสถานการณ์โดยรวมยังไม่สามารถปรับขึ้นราคาได้มากนัก

“ยอมรับว่าลูกค้ากลุ่มนักท่องเที่ยวจีนมีอิทธิพลสูงมาก มีพลังในการใช้จ่ายสูงเมื่อเทียบกับชาติอื่น ๆ การที่นักท่องเที่ยวจีนยังไม่ฟื้นกลับมามากนัก ทำให้ภาพรวมปีนี้ยังสู้ปีที่แล้วไม่ได้ และปีที่แล้วเราได้ลูกค้านักท่องเที่ยวจีนมากกว่าปีนี้ ดังนั้น ปีนี้เราต้องทำการตลาดเพื่อให้นักท่องเที่ยวใช้จ่ายภายในโรงแรมเพิ่มขึ้น” นายวุฒิพลกล่าวและว่า

ขณะเดียวกันโรงแรมที่เพิ่งเปิดให้บริการไป เช่น เดอะ ควอเตอร์ สะพานควาย เดอะ ควอเตอร์ รามคำแหง เดอะ ควอเตอร์ รัชโยธิน นั้นพบว่าทุกแห่งได้รับการตอบรับที่ดีและเป็นที่รู้จักเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

“และเพื่อสร้างสีสันและรายได้ในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นี้ โรงแรมในกลุ่มของ UHG ยังมีแผนทำโปรโมชั่น New Year Dinner สำหรับโครงการที่เป็นอาคารสูงและมีรูฟท็อป และมี Happy Hour เช่น เดอะ ควอเตอร์ อารีย์, เดอะ ควอเตอร์ รัชโยธิน, เดอะ ควอเตอร์ ทองหล่อ เป็นต้น” นายวุฒิพลกล่าว

รับรางวัล Fitwel จากสหรัฐ

นอกจากนี้ โครงการรัชโยธินฮิลล์ และโรงแรมเดอะ ควอเตอร์ รัชโยธิน ยังได้รับรางวัล “Fitwel Building Health for All” ซึ่งเป็นรางวัลมาตรฐานรับรองสุขภาวะระดับโลกสำหรับอาคารที่มุ่งเน้นการสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมสุขภาพ ก่อตั้งโดย U.S. Centers for Disease Control and Prevention (CDC) และ General Service Administration (GSA) สหรัฐอเมริกา

โดยโครงการรัชโยธินฮิลล์ เป็นอาคารที่ออกแบบเป็นอาคารประหยัดพลังงานที่ใช้โซลาร์เซลล์ อุปกรณ์และสุขภัณฑ์ประหยัดพลังงาน ไฟ LED ฯลฯ และมีสุขอนามัย เช่น มีระบบกรองฝุ่น กรอง PM2.5 จากนี้ยังต้องมีที่จอดรถจักรยาน มีพื้นที่สีเขียว พื้นที่นั่งเล่น การดูแลพนักงาน ฯลฯ

ทั้งนี้ นอกจากโครงการรัชโยธินฮิลล์แล้ว ปัจจุบันบริษัทยังอยู่ระหว่างการปรับโครงการอื่น ๆ ให้เข้าเกณฑ์ของรางวัลดังกล่าวด้วย เช่น รามคำแหงฮิลล์ สุขุมวิทฮิลล์ อารีย์ฮิลล์ เป็นต้น

เดินหน้าลงทุนตามแผน

นายวุฒิพลกล่าวด้วยว่า บริษัทยังคงเดินหน้าลงทุนในโครงการใหม่ตามแผนที่วางไว้ โดยยังเชื่อมั่นในศักยภาพของภาคการท่องเที่ยวของไทย โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่มีนักท่องเที่ยวหลากหลายสัญชาติ และมีจำนวนที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทั้งตลาดนักเดินทางระยะใกล้และนักเดินทางระยะไกล

โดยโครงการที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ ประกอบด้วย 1.ลงทุนเพิ่มในโครงการโรงแรมเดอะ ควอเตอร์ ลาดพร้าว มูลค่าลงทุนประมาณ 200 ล้านบาท เพิ่มห้องพักอีก 200 ห้อง พร้อมรีโนเวตล็อบบี้ให้มีขนาดใหญ่ขึ้นครอบคลุม 2 อาคาร ซึ่งจะทำให้โรงแรมแห่งนี้มีห้องพักทั้งหมดรวม 400 ห้อง ใหญ่ที่สุดของกลุ่ม UHG คาดว่าจะเสร็จในปี 2569

2.โครงการเดอะ ควอเตอร์ เอกมัย (สุขุมวิท 63) มูลค่าลงทุน 600 ล้านบาท จำนวน 200 ห้อง คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในช่วงปลายปีหน้า 3.โครงการเดอะ ควอเตอร์ พญาไท (ติดกับแอร์พอร์ตลิงก์) มูลค่าลงทุน 400 ล้านบาท จำนวน 200 ห้อง คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ปลายปี 2569 เช่นกัน

และ 4.โครงการเดอะ ควอเตอร์ นานา สุขุมวิท 8 มูลค่าลงทุนราว 1,000 ล้านบาท จำนวน 300 ห้อง ซึ่งเป็นโครงการใหม่ล่าสุดในพอร์ตลงทุน คาดว่าจะเสร็จและเปิดให้บริการได้ในปี 2570 รวมทั้งอยู่ระหว่างการเจรจาหาพันธมิตรเข้ามาลงทุนในพื้นที่ของโครงการเดอะ ควอเตอร์ รามคำแหง ที่ยังมีที่ดินว่างเหลืออีก 1 แปลง ประมาณ 3 ไร่ครึ่ง เพื่อให้เข้ามาลงทุนในธุรกิจเวลเนส หรือโรงพยาบาลเฉพาะทาง ซึ่งคาดว่าน่าจะได้ข้อสรุปเร็ว ๆ นี้

“เรายังเน้นลงทุนในพื้นที่กรุงเทพฯเป็นหลัก เนื่องจากเป็นเดสติเนชั่นที่เป็นที่ได้รับความนิยมอันดับ 1 ของไทย และได้รับความนิยมอยู่ในอันดับต้น ๆ ของโลก และเป็นตลาดที่มีรองรับนักเดินทางท่องเที่ยวทุกวัตถุประสงค์” นายวุฒิพลกล่าว

รับอานิสงส์ “ซีเกมส์ 2025”

นายวุฒิพลกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า นอกจากไตรมาสนี้จะเป็นช่วงไฮซีซั่นแล้ว ปีนี้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทยยังได้รับอานิสงส์จากการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ 2025 โดยเชื่อว่าโรงแรมที่อยู่ในพื้นที่ที่มีการจัดการแข่งขันและพื้นที่ใกล้เคียงจะได้รับอานิสงส์แน่นอน โดยเฉพาะในระดับกลางที่มีอัตราค่าห้องพักประมาณ 1,000-2,000 บาท ที่ใช้เป็นสถานที่พักของทีมนักกีฬาและผู้ฝึกสอน

สำหรับโรงแรมในเครือ UHG ได้เป็น Official Hotel หรือ An Official Hotel for Sea Games 2025 THAILAND จำนวน 2 แห่ง (จากทั้งหมด 25 แห่ง) ประกอบด้วย โรงแรมเดอะควอเตอร์ รามคำแหง และโรงแรมเดอะ ควอเตอร์ ลาดพร้าว (พหลโยธิน) ซึ่งนอกจากจะได้ในแง่ของอัตราการเข้าพักที่จะเพิ่มขึ้นแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักของชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นด้วย