“บางกอกแอร์เวย์ส” มุ่งพัฒนาความพร้อมรองรับความต้องการในการเดินทางจากทั่วโลก ทั้งเครือข่ายเส้นทางบิน ฝูงบิน ปรับกลยุทธ์บริหารเที่ยวบินตามดีมานด์ เผยล่าสุดเตรียมรับมอบเครื่อง Airbus A320 เข้าประจำฝูงบินอีก 2 ลำ สั่งซื้อเครื่องเอทีอาร์ 72-600 เข้าทดแทนฝูงบินเดิมอีก 10-12 ลำ ทยอยรับปลายปีนี้ พร้อมเดินหน้าพัฒนาสนามบินสมุยตามแผน

นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA ผู้บริหารสายการบินบางกอกแอร์เวยส์ เปิดเผยว่า บริษัทยังเชื่อมั่นว่าดีมานด์การเดินทางเข้าประเทศไทยจากทั่วโลกยังขยายตัวต่อเนื่อง และหากสายการบินมีความพร้อมในด้านซัพพลายรองรับ เชื่อว่าจะทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศไทยจะสามารถเติบโตเพิ่มมากขึ้น

โดยในส่วนของบางกอกแอร์เวย์สนั้น แม้ว่าในช่วงปลายปีต่อเนื่องถึงต้นปีหน้าจะยังไม่ได้เพิ่มเส้นทางบินใหม่ แต่บริษัทยังมีแผนลงทุนและพัฒนาทั้งในส่วนของการเพิ่มเครื่องบินใหม่เข้ามาเสริมฝูงบินและเดินหน้าพัฒนาท่าอากาศยานสมุย (สุราษฎร์ธานี) ตามแผน

โดยบริษัทได้สั่งซื้อเครื่องบินเอทีอาร์ 72-600 จาก AVIONS DE TRANSPORT REGIONAL G.I.E. ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องบินในฝรั่งเศสจำนวน 10-12 ลำ เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เพื่อใช้ทดแทนเครื่องเดิม โดยเครื่องบินรุ่นดังกล่าวนอกจากจะมีความยืดหยุ่นและมีความสามารถในการเข้าถึงสนามบินที่มีขนาดเล็กแล้ว ยังเป็นรุ่นที่มีประสิทธิภาพในการประหยัดเชื้อเพลิงอีกด้วย

ทั้งนี้ ตามแผนบริษัทจะรับมอบในไตรมาส 4 นี้จำนวน 2 ลำ ที่เหลืออีก 8-10 ลำจะรับมอบในปี 2570-2571 นอกจากนี้ ในปี 2569 ยังมีแผนรับเครื่องบิน Airbus A320 เข้าประจำฝูงบินอีก 2 ลำ จากปัจจุบันที่มีเครื่องบินรวม 22 ลำ เพื่อรองรับการเติบโตของภาคการท่องเที่ยวของไทย

นายพุฒิพงศ์กล่าวว่า ในช่วง 9 เดือนแรกที่ผ่านมาอุตสาหกรรมการบินทั่วโลกมีอัตราการเติบโตของปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร (Revenue Passenger Kilometers : RPK) เฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 4.8 โดยภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกมีอัตราการเติบโตมากที่สุดที่ร้อยละ 7.7 ตามด้วยภูมิภาคแอฟริกาและละตินอเมริกาที่มีอัตราการเติบโตร้อยละ 7.4 และร้อยละ 7.3 ตามลำดับ

ขณะที่ปริมาณการผลิตผู้โดยสาร (Available Seat Kilometers : ASK) ของทุกภูมิภาคทั่วโลกเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 4.7 โดยสายการบินในภูมิภาคละตินอเมริกามีอัตราการเติบโตสูงที่สุดที่ร้อยละ 8 รองลงมาคือภูมิภาคแอฟริกาและเอเชีย-แปซิฟิก เติบโตร้อยละ 6.3 และร้อยละ 6.1 ตามลำดับ

สำหรับประเทศไทยนั้น พบว่าในช่วง 9 เดือนแรกมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสมรวม 24.11 ล้านคน ลดลงร้อยละ 8.0 จากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนซึ่งลดลงถึงร้อยละ 35.0 ในขณะที่นักท่องเที่ยวจากภูมิภาคอื่น ๆ นอกเอเชียยังคงมีการเติบโตต่อเนื่อง รวมถึงรัสเซีย ยูเครน และอิสราเอล ทำให้บริษัทปรับเส้นทางการบินและจำนวนเที่ยวบินให้เหมาะสมกับความต้องการเดินทางและปริมาณที่นั่งให้บริการ

“บางกอกแอร์เวย์สยังคงเน้นให้บริการเส้นทางบินภายในประเทศที่รองรับผู้โดยสารจากต่างประเทศที่เดินทางมาจากสายการบินพันธมิตรเป็นหลัก มุ่งมั่นพัฒนาความพร้อม ทั้งเครือข่ายเส้นทางบิน ฝูงบิน การปรับกลยุทธ์บริหารความถี่เที่ยวบิน เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการในการเดินทาง เน้นเส้นทางที่สร้างผลกำไร รวมถึงการพัฒนาสนามบิน พร้อมยกระดับประสบการณ์ผู้โดยสาร” นายพุฒิพงศ์กล่าว และว่า

สำหรับผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 ที่ผ่านมา พบว่าบริษัทมีรายได้รวม 19,990 ล้านบาท กำไรสุทธิ 3,139 ล้านบาท ขนส่งผู้โดยสารรวม 3.24 ล้านคน อัตราส่วนการขนส่งผู้โดยสาร 76% โดยเส้นทางสมุยยังคงเป็นเส้นทางหลัก คิดเป็นสัดส่วนผู้โดยสารที่ 66% เติบโตจากปีที่ผ่านมา 4% และมีอัตราส่วนการขนส่งผู้โดยสาร 87%

ขณะที่เส้นทางบินเชื่อมสมุยไปยังจุดหมายปลายทางอื่น ๆ นอกเหนือจากกรุงเทพฯ เช่น สมุย-เชียงใหม่ สมุย-ภูเก็ต และสมุย-กระบี่ มีอัตราส่วนการขนส่งผู้โดยสารเกือบ 90%

นอกจากนี้ ยังพบว่าจุดขายบัตรโดยสารหลักมาจากต่างประเทศคิดเป็นสัดส่วนอยู่ที่ 82% ของรายได้ผู้โดยสารทั้งหมด โดย 55% มาจากภูมิภาคยุโรปและตะวันออกกลาง นอกจากนี้ ยังได้เสริมความแข็งแกร่งเครือข่ายสายการบินพันธมิตร โดยมีสายการบิน ITA Airways ซึ่งเป็นสมาชิกในกลุ่ม Lufthansa Group เข้าร่วมเป็นพันธมิตรแบบ Interline รายล่าสุด เพื่อเพิ่มโอกาสในการขยายตลาดยุโรป