LINE MAN Wongnai เปิดอินไซต์ “คนละครึ่งพลัส” บน LINE MAN พบ 3 สัปดาห์แรก มีมากกว่า 8 ล้านออร์เดอร์ ยอดใช้จ่ายต่อบิล 140-180 บาท ดันยอดขายร้านค้าทั่วประเทศโต 4.2 เท่า จังหวัดที่มียอดขายเติบโตสูงสุด คือจันทบุรี 9.4 เท่า ขณะที่กรุงเทพฯ โตเฉลี่ย 4.1 เท่า

นายยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE MAN Wongnai ฉายภาพการเข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ของ “ไลน์แมน” (LINE MAN) ว่า ไลน์แมนเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มดีลิเวอรี่หลักของโครงการ โดย 65% ของร้านที่เข้าร่วมโครงการเลือกขายบนไลน์แมน และทำยอดขายคนละครึ่งพลัสคิดเป็น 63% มากที่สุดในตลาด

ในช่วง 3 สัปดาห์แรก เกิดยอดออร์เดอร์คนละครึ่งรวมกว่า 8 ล้านออร์เดอร์ มีการจับจ่ายต่อบิลเฉลี่ย 140-180 บาท ร้านได้ลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น 22% และมีความถี่ในการสั่งบ่อยขึ้นด้วย ขณะที่ยอดขายร้านค้าทั่วประเทศเติบโตเฉลี่ย 4.2 เท่า และกว่า 3,000 ร้าน เติบโตมากกว่า 10 เท่า สูงกว่าโครงการคนละครึ่งรอบก่อนหน้า

ยิ่งไปกว่านั้น โครงการคนละครึ่งพลัส ยังช่วยให้ร้านเล็ก (รายได้น้อยกว่า 10,000 บาท/เดือน) มียอดขายพุ่งถึง 5.9 เท่า เมื่อเทียบกับยอดขายช่วงก่อนโครงการ ส่วนร้านขนาดกลาง (รายได้มากกว่า 10,000 บาท/เดือน) เติบโต 2 เท่า ฝั่งไรเดอร์ก็ได้อานิสงส์ มีรายได้เฉลี่ยเพิ่มขึ้น 15–25% ตามปริมาณออร์เดอร์ต่อวันที่สูงขึ้น

สำหรับเมนูที่มียอดสั่งสูงสุดผ่านแคมเปญคนละครึ่งพลัสบนไลน์แมน 5 อันดับแรก ได้แก่ ชาไทย, ตำปูปลาร้า, ชาเขียวนม, โกโก้ และตำป่า ขณะเดียวกันยังทำให้เกิดเมนู “จัดหนัก” ที่มียอดบิลสูงที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ แซลมอน, ทุเรียนหมอนทองแกะเนื้อ, กุ้งเผา, ปูไข่นึ่ง และหมูหัน มูลค่าบิลสูงสุดแตะ 1,700 บาท

คนละครึ่งพลัส 8 ล้านออเดอร์ ดันยอดขาย LINE MAN เพิ่ม 4 เท่า

“ครึ่งปีแรก 2568 ถือเป็นช่วงต่ำสุดของธุรกิจร้านอาหาร เพราะยอดขายต่อร้าน (Sales Per Store) หดตัวหนักถึง 14% ในไตรมาส 2/2568 แต่เมื่อเข้าสู่ครึ่งปีหลัง ตลาดเริ่มกลับมาเป็นบวก โดยไตรมาส 3/2568 โต 1% และช่วงเดือน ต.ค.-พ.ย. กลับมาโต 5% สะท้อนว่าโครงการคนละครึ่งพลัส ช่วยปลดล็อกกำลังซื้อในวงกว้าง และอัดฉีดร้านเล็กให้โตได้จริง”

เมื่อเจาะรายละเอียดไปที่แต่ละพื้นที่จะพบว่าผลจากโครงการคนละครึ่งพลัส ดันยอดขายร้านต่างจังหวัดโตสูงมาก โดยจังหวัดที่มียอดขายร้านเติบโตสูงที่สุด เมื่อเทียบกับยอดขายช่วงก่อนโครงการ ได้แก่ จันทบุรี 9.4 เท่า, หนองบัวลำภู 9.3 เท่า, อุตรดิตถ์ 8.9 เท่า, อุดรธานี 8 เท่า และเชียงราย 7 เท่า ขณะที่กรุงเทพฯ มีการเติบโตเฉลี่ย 4.1 เท่า

นายยอดกล่าวด้วยว่า แม้ภาพรวมตลาดร้านอาหารจะเริ่มฟื้นช่วงสิ้นปี แต่ “กรุงเทพฯ” ยังเป็นพื้นที่ที่ฟื้นตัวช้าที่สุด โดย “โซนฮอตสปอต” หลายย่านยังมียอดขายติดลบ เช่น ย่านธุรกิจสุขุมวิท-สีลม-สาทร ที่มียอดขายต่อร้านลดลง 19% ในไตรมาส 2/2568 ขณะที่ช่วงเดือน ต.ค.-พ.ย. ดีขึ้น แต่ยังติดลบเล็กน้อยที่ 1% เมื่อเทียบกับปีก่อน

ย่านบรรทัดทอง ชะลอตัวหนักที่สุด ติดลบถึง 35% ในไตรมาส 2/2568 และยังติดลบ 21% ในช่วงปลายปี สะท้อนว่าร้านอาหารในย่านยอดนิยมของเมืองหลวงยังต้องเผชิญการแข่งขันและต้นทุนสูงต่อเนื่อง และร้านในห้าง เริ่มเห็นสัญญาณบวก ยอดขายช่วงไตรมาส 2/2568 ลดลง 21% แต่ดีดตัวขึ้นมาที่ 1% ในเดือน ต.ค.-พ.ย. เป็นกลุ่มเดียวในกรุงเทพฯ ที่พลิกกลับมาบวกได้ในช่วงปลายปี

“โครงการคนละครึ่งพลัสต้องการให้เงินสะพัดสู่ฐานรากจริง ๆ จึงมีการกำหนดเงื่อนไขว่าต้องมีรายได้ไม่เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี ทำให้กลุ่มร้านขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ยังขาดปัจจัยกระตุ้นเพื่อสร้างการเติบโต เราจึงมีการปรับแผนเพื่อช่วยร้านพาร์ตเนอร์ หรือเชนใหญ่ช่วงที่การใช้จ่ายในโครงการเริ่มแผ่วลงไปด้วย”

เมื่อถามถึงแนวทางการสนับสนุนผู้ประกอบการร้านอาหารฟื้นฟูกิจการจากเหตุการณ์น้ำท่วมใน อ.หาดใหญ่ ซีอีโอ LINE MAN Wongnai บอกว่า แม้สถานการณ์จะคลี่คลายแล้ว แต่ร้านอาหารยังไม่สามารถเปิดได้ และมีร้านที่พร้อมอยู่ไม่ถึง 10% ขณะที่ผู้ใช้ต้องการจะสั่งอาหาร และไรเดอร์พร้อมที่จะกลับมาทำงานแล้ว เราจึงมีไอเดียในการทำ “คลาวด์ คิทเช่น สัญจร” ชั่วคราว 3-6 เดือน เพื่อเปิดพื้นที่ให้ร้านมาขายอาหาร และหาเงินไปปรับปรุงร้านของตนเอง โดยจะมีการลงพื้นที่ช่วงสัปดาห์หน้า และวางแผนอย่างละเอียดต่อไป

Contact to : xlf550402@gmail.com


Privacy Agreement

Copyright © boyuanhulian 2020 - 2023. All Right Reserved.