ราคาน้ำมันดิบปรับลดลง หลังปริมาณน้ำมันสำเร็จรูปคงคลังสหรัฐล้นตลาด

หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่าปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคามีดังนี้ ราคาน้ำมันดิบปรับลดลง หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) เปิดเผยตัวเลขน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 5 ธ.ค. 68 ปรับเพิ่มขึ้น 6.4 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับเพิ่มเพียง 2.8 ล้านบาร์เรล อีกทั้งตัวเลขน้ำมันดีเซลคงคลังสหรัฐประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 5 ธ.ค. 68 ปรับเพิ่มขึ้น 2.5 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับเพิ่มเพียง 1.9 ล้านบาร์เรล สะท้อนสภาวะอุปทานน้ำมันเชื้อเพลิงล้นตลาด

โดยราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 11 ธ.ค. 68 อยู่ที่ 57.60 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง -0.86 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันเบรนต์อยู่ที่ 61.28 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง -0.93

นักลงทุนยังคงจับตาการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง หลังวานนี้ เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซีย เผยว่ารัสเซียได้ส่งข้อเสนอหลักประกันความมั่นคงร่วมกันกับยูเครนให้สหรัฐแล้ว ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีที่ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนอาจยุติ และอาจปูทางให้มีการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย

สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ปรับเพิ่มการคาดการณ์การเติบโตความต้องการใช้น้ำมันดิบทั่วโลกในปี 2026 โดยคาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 860,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งเพิ่มขึ้น 90,000 บาร์เรลต่อวัน จากที่เคยคาดการณ์ไว้เมื่อเดือนที่แล้ว เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาคที่ดีขึ้นจากการคลายความกังวลต่อเรื่องภาษีนำเข้า

ขณะเดียวกัน ก็ปรับลดการคาดการณ์อุปทานน้ำมันดิบส่วนเกินในตลาดปี 2026 โดยคาดว่าจะปรับลดลงเหลือเพียง 3.84 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งลดลงจากที่เคยคาดไว้เมื่อเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 4.09 ล้านบาร์เรลต่อวัน