สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยไม่แปลกใจ ‘อนุทิน’ ยุบสภา ห่วงข้าราชการเกียร์ว่าง หวังปลัดทุกกระทรวงขับเคลื่อน

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงกรณี นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศยุบสภา ว่าไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าตกใจหรือแปลกใจแต่ประการใด เนื่องจากนายกรัฐมนตรีเคยส่งสัญญาณและพูดถึงเงื่อนไขไว้แล้ว หลายฝ่ายมีการคาดการณ์ถึงช่วงเวลาการยุบสภาไว้ถึง 3 ระยะ

และช่วงเวลานี้ถือเป็นระยะที่หนึ่งที่ใกล้ที่สุดตามที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งเท่ากับว่ารัฐบาลเสียงข้างน้อยที่โครงสร้างมีความเปราะบางนี้ ได้อยู่บริหารประเทศเต็มที่ประมาณ 2 เดือนกว่า และยุบสภาเร็วกว่ากำหนดประมาณเดือนกว่า

อย่างไรก็ตาม การยุบสภาครั้งนี้มาจากการที่พรรคประชาชนไม่พอใจและถือว่าเป็นการผิดข้อตกลง MOA ซึ่งเป็นผลมาจากการที่มีการประสานและแจ้งไปยังพรรคประชาชนว่าให้คงอำนาจของวุฒิสภา (สว.) ไว้ก่อน ทำให้พรรคประชาชนมองว่าเป็นการฉีก MOA กัน

นายเกรียงไกรกล่าวยอมรับว่า ส่วนตัวมีความกังวลว่าการยุบสภาและเข้าสู่ช่วงรัฐบาลรักษาการที่เป็นเวลาประมาณ 60 วัน อาจส่งผลกระทบต่อความเข้มข้นในการขับเคลื่อนมาตรการต่าง ๆ ที่กำลังดำเนินการอยู่ โดยเฉพาะนโยบายเศรษฐกิจที่จำเป็นต้องใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการพยุงเศรษฐกิจ หรือ GDP ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้

ทั้งนี้ มาตรการ “Quick Big Win” ที่คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ โดยเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวการคลัง ออกมาเพื่อหวังไม่ให้เศรษฐกิจไทยเหมือน “รถติดหล่ม” มีความจำเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้ประกาศว่า GDP ในไตรมาสที่ 3 เหลือเพียง 1.2% ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ถึง 0.5% แม้ว่ามาตรการเหล่านี้จะถือว่าทำได้ดีแล้วและได้ผลตอบรับที่ดีในช่วงต้น แต่จำเป็นต้องคอยติดตามว่าการเป็น “รัฐบาลรักษาการ” จะส่งผลอย่างไร และจะลดความเข้มข้นในการเดินมาตรการเหล่านี้หรือไม่

นายเกรียงไกรกล่าวเน้นย้ำว่า ขณะนี้มีปัญหาใหญ่หลายเรื่องที่ยังคง “คาราคาซัง” อยู่ ท่ามกลางสถานการณ์ที่ยังไม่ปกติ ซึ่งปัญหาเหล่านี้จำเป็นต้องได้รับการขับเคลื่อนจากรัฐบาลอำนาจเต็ม แต่กลับมาอยู่ในช่วงรัฐบาลรักษาการ ได้แก่

1.สถานการณ์ภาคใต้ ที่อยู่ในระหว่างการฟื้นฟูหลังจากประสบอุทกภัยอย่างหนักทั้ง 9 จังหวัด การที่รัฐบาลเป็นรักษาการอาจส่งผลให้การเร่งฟื้นฟูเกิดความล่าช้าหรือสะดุดไปได้

2.การปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา สถานการณ์การปะทะรอบ 2 ยังคงทวีความรุนแรงและกินบริเวณกว้าง ซึ่งส่งผลกระทบต่อการค้า การท่องเที่ยว และภาคการเกษตรในจังหวัดชายแดนหลายแห่งในภาคอีสาน ทำให้ประชาชนหลายแสนคนต้องอพยพ และนิคมอุตสาหกรรมบางแห่งต้องหยุดดำเนินการ

3.การเจรจาระหว่างประเทศ ในการเจรจาสำคัญระหว่างไทยกับสหรัฐถือเป็น “การบ้านใหญ่” ที่ยังคงค้างและชะลออยู่ หากมีการเจรจาหรือติดต่อจากมหาอำนาจอย่างสหรัฐ “โดนัลด์ ทรัมป์” เข้ามาในช่วงนี้ ก็ไม่แน่ใจว่าจะมีข้อจำกัดหรือเป็นอุปสรรคต่อการตัดสินใจหรือไม่

นายเกรียงไกรกล่าวว่า รัฐบาลรักษาการและรัฐบาลอำนาจเต็มนั้นไม่เหมือนกัน จากประสบการณ์ในอดีตของไทยพบว่าทันทีที่รัฐบาลประกาศยุบสภา ข้าราชการประจำส่วนใหญ่มักจะ “ปล่อยเกียร์ว่าง” หรือผ่อนคันเร่งในการทำงานลง เนื่องจากต้องรอจับตาดูสถานการณ์และท่าทีว่าใครจะมาเป็นรัฐบาลชุดหน้า ทำให้มาตรฐานการทำงานและอำนาจในการสั่งการกับข้าราชการประจำลดลง

“ส.อ.ท. จึงฝากให้ปลัดกระทรวงต่าง ๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาช่วยดำเนินการการบ้านที่ค้างอยู่เหล่านี้อย่างเข้มข้นต่อไป ดังนั้น ในช่วงนี้จะต้องจับตาว่านโยบายหรือมาตรการต่าง ๆ ที่ประกาศและอนุมัติไปแล้วจะมีการขับเคลื่อนได้เต็มที่หรือไม่ อย่างไร เพราะ Quick Big Win ที่ออกมาถือว่าเป็นนโยบายที่จะหนุนเศรษฐกิจในช่วงท้ายของปีที่ดี และยิ่งขณะนี้ประเทศต้องสะดุดในหลายเรื่องจะกระทบ GDP ไทยที่โตช้าไปอีกหรือไม่ อย่างไร” นายเกรียงไกรกล่าว

Contact to : xlf550402@gmail.com


Privacy Agreement

Copyright © boyuanhulian 2020 - 2023. All Right Reserved.