แม้ว่าตลาดหุ้นของหลายประเทศกำลังแย่ แต่นักลงทุนอย่าเพิ่งหมดหวัง เพราะล่าสุด ซิตี้กรุ๊ป (Citigroup Inc.) คาดว่า MSCI All Country World Index ดัชนีรวมหุ้นทั่วโลกจะจบปี 2025 ด้วยผลตอบแทน +10% แม้จะไม่มากเท่าปี 2024 ที่ทำผลงานได้ +17.49% แต่ก็ยังดีกว่าหลาย ๆ ปีในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา

ตามที่บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2025 เบอาตา แมนเทย์ (Beata Manthey) นักกลยุทธ์การลงทุนของกลุ่มธุรกิจการเงิน ซิตี้กรุ๊ป คาดว่าหุ้นทั่วโลกจะพุ่งขึ้น 10% ในปีนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากการเติบโตของกำไรของบริษัท และคาดว่าหุ้นสหรัฐกลุ่มอื่น ๆ นอกเหนือจากหุ้นเทคจะทำผลงานดีขึ้น รวมถึงคาดว่าหุ้นทั่วโลกจะทำผลงานดีขึ้นในวงกว้าง ไม่จำกัดอยู่แค่ตลาดสหรัฐ

แมนเทย์คาดหวังว่ากำไรของบริษัทจดทะเบียนทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 10% เนื่องจากการเติบโตทางเศรษฐกิจยังคงแกร่ง แม้ว่าเธอจะเตือนถึงความเสี่ยงจากนโยบายของ โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐก็ตาม 

ถ้าเลือกว่าตลาดไหนน่าลงทุนที่สุด แมนเทย์ยังคงชอบหุ้นสหรัฐมากกว่าตลาดอื่น ในขณะที่หุ้นยุโรปเป็นตัวเลือกที่เธอชื่นชอบสำหรับกระจายการลงทุน โดยเลือกลงทุนในเซ็กเตอร์ที่เชื่อมโยงกับวัฏจักรเศรษฐกิจ 

“เศรษฐกิจในภาพใหญ่ยังคงสนับสนุนการเติบโตของกำไรของบริษัทและกำไรจากตลาดหุ้น” แมนเทย์เขียนในบทวิเคราะห์

เธอคาดว่า ตลาดหุ้นสหรัฐจะยังคง outperforming หรือทำผลงานได้ดีกว่าตลาดอื่น จนกว่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับนโยบายของทรัมป์ที่อาจไม่ส่งผลดีต่อตลาดสหรัฐ ถ้าทรัมป์มีท่าทีที่ผ่อนปรนมากขึ้นในเรื่องภาษีศุลกากร และเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ก็จะช่วยหนุนตลาดหุ้นประเทศอื่น ๆ 

MSCI All Country World Index ซึ่งเป็นดัชนีที่ครอบคลุมตลาดหุ้นทั่วโลก ชะงักในช่วงปีใหม่ หลังจากที่พุ่งขึ้นแล้วมากกว่า 50% จากจุดต่ำสุดในปี 2022 เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าภาษีศุลกากรที่โดนัลด์ ทรัมป์ จะบังคับใช้อาจส่งผลกระทบต่อการค้าโลก บวกกับความไม่แน่นอนทางการเมืองในยุโรป และเศรษฐกิจจีนที่ชะงักงันก็ส่งผลต่อความเชื่อมั่นด้วย

สำหรับตลาดหุ้นสหรัฐ ปีนี้ความสนใจอยู่ที่ว่า หุ้นในภาคอุตสาหกรรมอื่น ๆ นอกเหนือจากภาคเทคโนโลยีจะทำกำไรได้หรือไม่ หลังจากที่มีหุ้นขนาดใหญ่เพียงไม่กี่ตัวที่ผลักดันการพุ่งขึ้นของตลาดในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยเป็นผลมาจากมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) 

ซึ่งในประเด็นนี้ เบอาตา แมนเทย์ นักกลยุทธ์การลงทุนของซิตี้คาดว่า ช่องว่างระหว่างของกำไร (earning) ของ 7 หุ้นใหญ่ในกลุ่มเทคโนโลยีที่เรียกว่า “7 นางฟ้า” (Magnificent Seven) กับกำไรของหุ้นอื่น ๆ ในดัชนี S&P 500 จะแคบลงในปี 2025 นี้