สามล้าน ลูกพ่อพระยาเสือ คว้าแชมป์ Legend Fighting Championships 2024 ที่หัวหิน

เมื่อวันที่ 13 มกราคม มีการจัดการแข่งขันมวยไทยสุดยิ่งใหญ่ Legend Fighting Championships 2024: ศึกมวยรองครองแชมป์ ปิดฉากอย่างงดงาม ณ เวทีมวยชั่วคราว หัวหิน คอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ ชั้น 1 บลูพอร์ต หัวหิน โดยมีแฟนมวยและผู้สนับสนุนจากหลากหลายภาคส่วนทั้งในและต่างประเทศให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก

ไฮไลท์ของงานคือการชิงแชมป์ระหว่าง สามล้าน ลูกพ่อพระยาเสือ และ ฤทธิชัย ช.วชิระ ที่เป็นคู่เอกแห่งศึกครั้งนี้ ท่ามกลางเสียงเชียร์ของผู้ชมที่เต็มสนาม ทั้งสองนักชกแสดงฝีมืออย่างดุเดือด โดย สามล้าน อาศัยชั้นเชิงและความแม่นยำเอาชนะ ฤทธิชัย ไปด้วยคะแนนฉิวเฉียด คว้าเข็มขัดแชมป์ Legend Fighting Championships 2024 พร้อมเงินรางวัล 100,000 บาท ถือเป็นการปิดฉากการแข่งขันอย่างสมศักดิ์ศรี

อีกคู่ที่ได้รับการจับตามองไม่แพ้กันคือการคืนสังเวียนของ มนัส บุญจำนงค์ ฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิกปี 2004 ที่ต้องดวลกับนักมวยไทยชาวอิหร่าน มาฮัน สิงห์บุรี การต่อสู้ครั้งนี้เป็นไปอย่างดุเดือดและสูสี ก่อนจะจบลงด้วยผลเสมอ เรียกเสียงปรบมือจากแฟนมวยทั้งสนาม

การแข่งขันครั้งนี้ยังได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน พร้อมกล่าวชื่นชมความสำเร็จของการจัดกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมกีฬามวยไทยในระดับประเทศและเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยว โดยกล่าวว่า “ผมเห็นถึงศักยภาพของหัวหินในฐานะเมืองกีฬาและการท่องเที่ยว อีกทั้งยังเป็นเวทีที่ช่วยเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทยผ่านมวยไทยสู่สายตาชาวโลก นอกจากเป็นการพัฒนาวงการมวยไทยแล้ว ยังเปิดโอกาสให้นักมวยรุ่นใหม่ได้แสดงศักยภาพและสร้างชื่อเสียงในระดับสากล ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของมวยไทย”

งานนี้ยังมีพันธมิตรจากภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมอย่างคับคั่ง เช่น การกีฬาแห่งประเทศไทย, บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน), Thai Smile Bus และหน่วยงานท้องถิ่นในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมีวิว เยาวภา บุรพลชัย อดีตนักกีฬาเทควันโดเหรียญทองแดงโอลิมปิก โปรโมเตอร์ของการแข่งขัน ทวี อัมพรมหา (ขาวผ่อง สิทธิชูชัย) นักกีฬาโอลิมปิก เหรียญเงินมวยสากลสมัครเล่น ปี 1984 และมนัส บุญจำนงค์ เหรียญทองโอลิมปิก มวยสากลสมัครเล่น ปี 2004 และเหรียญเงินโอลิมปิก ปี 2008

การแข่งขัน Legend Fighting Championships 2024 ไม่เพียงสร้างความสนุกและตื่นเต้น แต่ยังสะท้อนถึงความสำเร็จในการผลักดันมวยไทยให้เป็น Soft Power ที่ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ มวยไทยยังคงเป็นสมบัติล้ำค่าที่สร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทย และพร้อมที่จะเผยแพร่สู่สายตาชาวโลกอย่างต่อเนื่อง