แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผ่านพ้นอุปสรรคที่ต้องเหลือผู้เล่น 10 คน สามารถยื้ออาร์เซนอลไปถึงการดวลจุดโทษ ก่อนยิงได้แม่นกว่าคว้าชัยผ่านเข้ารอบ เอฟเอ คัพ ได้สำเร็จ

การแข่งขันฟุตบอล เอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบสาม เมื่อวันที่ 12 มกราคม ศึกระหว่าง 2 ทีมจากพรีเมียร์ลีก “ปืนใหญ่”อาร์เซนอล เปิดสนามเอมิเรตส์ สเตเดียม รับการมาเยือนของแชมป์เก่า “ปีศาจแดง”แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

เกมนี้เจ้าบ้านส่ง ไค ฮาแวร์ตซ์, กาเบรียล มาร์ติเนลลี, มาร์ติน โอเดการ์ด ลงตัวจริง ขณะที่ทีมเยือนใช้งาน ราสมุส ฮอยลุนด์, บรูโน แฟร์นานเดส, อเลฮานโดร การ์นาโช

ครึ่งแรกนาที 18 กาเบรียล เชซุส จ่ายบอลตั้งใจจะให้ทะลุผ่านแนวรับ ลูกแฉลบขากองหลังเล็กน้อยกระดอนมาเข้าทาง กาเบรียล มาร์ติเนลลี หลุดเดี่ยวไปยิงผ่านนายทวารไม่เหลือ ทว่ามาร์ติเนลลีก็ล้ำหน้าก่อนแล้ว อาร์เซนอลจึงไม่ได้ประตู

หลังจากนั้นเป็นฝั่งอาร์เซนอลที่ครองบอลได้มากกว่า แต่ไม่อาจเจาะแนวรับได้ ขณะที่ฝั่งแมนฯ ยูไนเต็ดก็ไม่ได้มีการสวนกลับที่อันตรายให้เห็น ทำให้จบครึ่งแรกเสมอกันแบบชวนอึดอัด 0-0

ครึ่งหลังนาที 52 อเลฮานโดร การ์นาโช ฉกบอลได้บริเวณครึ่งสนามแล้วกระชากขึ้นมาจนถึงเขตโทษ ก่อนจ่ายต่อให้ บรูโน แฟร์นานเดส ยิงเสียบตาข่ายอย่างเฉียบคม แมนฯ ยูไนเต็ดนำ 1-0

นาที 61 ดิโอโก ดาโลต์ เสียบสกัดใส่ มิเคล เมริโน แล้วผู้ตัดสินมองว่าเป็นการทำฟาวล์ที่รุนแรง จึงแจกใบเหลืองที่ 2 เป็นใบแดงไล่ดาโลต์ออกจากสนาม แมนฯ ยูไนเต็ดเหลือผู้เล่น 10 คน

นาที 63 กาเบรียล มาร์ติเนลลี เปิดบอลจากด้านซ้ายเข้ากลางแล้วผู้รักษาประตูชกสกัดไม่ดี จากนั้นผู้เล่นแนวรับก็โหม่งเคลียร์ไม่พ้นจากเขตโทษอีก กาเบรียล มากัลเญส จึงสบโอกาสเอียงตัววอลเลย์ลูกแฉลบนักเตะแมนฯ ยูไนเต็ดเข้าประตูไป อาร์เซนอลตีเสมอ 1-1

นาที 69 ไค ฮาแวร์ตซ์ ได้บอลในเขตโทษแล้วขาขัดกับ แฮร์รี แม็กไกวร์ ล้มลงไป ผู้ตัดสินจึงเป่าให้จุดโทษแก่อาร์เซนอล มาร์ติน โอเดการ์ รับหน้าที่สังหารไปทางขวามือตัวเอง อัลตาย บายินดีร์ พุ่งถูกทางเซฟไว้ได้ สกอร์จึงยังเสมอกัน 1-1

นาที 76 อาร์เซนอลพลาดโอกาสทองอีกครั้ง มาร์ติน โอเดการ์ด ตักบอลข้ามแนวรับให้ เดแคลน ไรซ์ สอดมาโขกแบบจ่อๆ อัลตาย บายินดีร์ ซูเปอร์เซฟกระโดดปัดทิ้งทันอย่างไม่น่าเชื่อ

นาที 88 การตักบอลข้ามแนวรับของ มาร์ติน โอเดการ์ด แผลงฤทธิ์อีกครั้ง คราวนี้ลูกหลุดไปถึง ไค ฮาแวร์ตซ์ พักลงแล้วยิงระยะจ่อๆ ข้ามคานเหลือเชื่อ อาร์เซนอลพลาดโอกาสแซงนำ

นาที 90+4 ยังคงเป็นฝั่งอาร์เซนอลที่ได้โอกาสลุ้นประตูอีก จอร์จินโญ แทงบอลผ่านแนวรับให้ เดแคลน ไรซ์ หลุดเข้าพื้นที่ด้านซ้ายของเขตโทษแล้วยิงมุมแคบ อัลตาย บายินดีร์ ปัดลูกหลุดเสาไปนิดเดียว หมดเวลา 90 นาทีเสมอกัน 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไป

ช่วงต่อเวลานาที 106 อาหมัด ดิยัลโล พาบอลบุกขึ้นมาแล้วจ่ายต่อให้ โจชัว เซิร์กเซ ยิงจากบริเวณหน้าเขตโทษ ลูกพุ่งเรียดทำท่าจะเสียบมุม ดาบิด รายา ต้องพุ่งตัวปัดทิ้งไม่ให้แมนฯ ยูไนเต็ดได้ประตู หมดเวลา 120 นาทีเสมอกัน 1-1 ต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ

ผลปรากฏว่าฝั่งแมนฯ ยูไนเต็ดได้ยิง 5 คน ไม่พลาดทั้งหมด ขณะที่อาร์เซนอลยิง 4 คน และเป็น ไค ฮาแวร์ตซ์ สับไกไปติดเซฟ อัลตาย บายินดีร์ ทำให้แมนฯ ยูไนเต็ดชนะ 5-3 ผ่านเข้ารอบสี่ต่อไป

ผลคู่อื่น

ฮัลล์ ซิตี้ (แชมเปียนชิพ) 1-1 ดอนคาสเตอร์ โรเวอร์ส (ลีก ทู) ***หลังต่อเวลาเสมอ 1-1, ฮัลล์แพ้จุดโทษ 4-5***

แทมเวิร์ธ (เนชันแนล ลีก) 0-0 ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ (พรีเมียร์ลีก) ***หลังต่อเวลาแทมเวิร์ธแพ้ 0-3***

นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด (พรีเมียร์ลีก) 3-1 บรอมลีย์ (ลีก ทู)

คริสตัล พาเลซ (พรีเมียร์ลีก) 1-0 สตอกพอร์ต เคาน์ตี (ลีก วัน)

อิปสวิช ทาวน์ (พรีเมียร์ลีก) 3-0 บริสตอล โรเวอร์ส (ลีก วัน)