มาตรการคว่ำบาตรใหม่ของสหรัฐจะขัดขวางการส่งน้ำมันรัสเซียไปยังผู้ซื้อรายใหญ่อย่างจีนและอินเดีย นักวิเคราะห์มองว่า โรงกลั่นจีนและอินเดียจะหันไปหาน้ำมันจากตะวันออกกลาง แอฟริกา และอเมริกามากขึ้น ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดและต้นทุนค่าขนส่งพุ่งสูงขึ้น

รอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า กระทรวงการคลังสหรัฐมีคำสั่งคว่ำบาตรผู้ผลิตและผู้ขนส่งน้ำมันรัสเซียรอบใหม่ ตลอดจนเรือ 143 ลำที่ขนส่งน้ำมันจากรัสเซียรวมกว่า 530 ล้านลาร์เรลพุ่งเป้ารายได้ที่มอสโกใช้ทำสงครามกับยูเครน  เมื่อ 11 มกราคม นักวิเคราะห์คาดว่าโรงกลั่นน้ำมันจีนและอินเดียได้รับผลกระทบ ทำให้ราคาและต้นทุนขนส่งสูงขึ้น โดยโรงกลั่นน้ำมันของจีนและอินเดียจะหันไปใช้แหล่งน้ำมันจากตะวันออกกลาง แอฟริกา และอเมริกาเพิ่มขึ้น

บริษัทผลิตน้ำมันของรัสเซียที่ถูกคว่ำบาตรรอบใหม่ คือ ก๊าซพรอม เนฟท์ (Gazprom Neft) และ ซูร์กุทเนฟเทกัส (Surgutneftegas)

เรือบรรทุกน้ำมันจำนวนมากที่ถูกคว่ำบาตรนั้นพากันขนน้ำมันไปยังอินเดียและจีน เนื่องจากการลงโทษคว่ำบาตรจากชาติตะวันตกและการกำหนดเพดานราคาจากกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมก้าวหน้าจี 7 ในปี 2022 ได้เปลี่ยนการค้าน้ำมันรัสเซียจากการขายให้ยุโรปไปยังเอเชีย อีกทั้งเรือบรรทุกน้ำมันจำนวนหนึ่งยังขนส่งน้ำมันจากอิหร่าน ซึ่งก็ถูกคว่ำบาตรอยู่เช่นกัน

แหล่งข่าวการค้าของจีนระบุว่า การส่งออกน้ำมันของรัสเซียจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการคว่ำบาตรรอบใหม่ ซึ่งจะบีบให้โรงกลั่นน้ำมันอิสระสัญชาติจีนต้องลดปริมาณการผลิตในอนาคต

การหยุดชะงักของอุปทานที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในรัสเซียทำให้ราคาน้ำมันโลกพุ่งสูงสุดในรอบหลายเดือนเมื่อวันจันทร์ที่ 6 มกราคม โดยราคาซื้อขายน้ำมันดิบเบรนต์ซื้อสูงกว่า 81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ในบรรดาเรือที่เพิ่งถูกคว่ำบาตร มีเรือบรรทุกน้ำมัน 143 ลำที่ขนส่งน้ำมันดิบของรัสเซียมากกว่า 530 ล้านบาร์เรลในปี 2024 ซึ่งคิดเป็นประมาณ 42% ของการส่งออกน้ำมันดิบทางทะเลทั้งหมดของประเทศ อ้างอิงข้อมูลจากแมตต์ ไรท์ นักวิเคราะห์ด้านการขนส่งสินค้าชั้นนำของบริษัทเคปเลอร์ (Kpler)

และในจำนวนกว่า 530 ล้านบาร์เรล มีราว 300 ล้านบาร์เรลที่ขนส่งไปยังประเทศจีน ในขณะส่วนที่เหลือส่วนใหญ่ถูกขนไปยังประเทศอินเดีย

ไรท์กล่าวว่า การคว่ำบาตรเหล่านี้จะลดจำนวนเรือที่มีอยู่อย่างมากในการขนส่งน้ำมันดิบจากรัสเซียในระยะสั้น ส่งผลให้ค่าระวางขนส่งสูงขึ้น

ผู้ค้ารายหนึ่งในสิงคโปร์กล่าวว่าเรือบรรทุกน้ำมันที่ถูกคว่ำบาตรหลายลำได้ขนส่งน้ำมันดิบของรัสเซียเกือบ 900,000 บาร์เรลต่อวันไปยังจีนในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา

ในช่วง 11 เดือนแรกของปีที่แล้ว การนำเข้าน้ำมันดิบจากรัสเซียของอินเดียเพิ่มขึ้น 4.5% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว อยู่ที่ 1.764 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือ 36% ของการนำเข้าทั้งหมดของอินเดีย และปริมาณของจีน รวมถึงอุปทานในท่อ เพิ่มขึ้น 2% อยู่ที่ 99.09 ล้านเมตริกตัน (2.159 ล้านบาร์เรลต่อวัน) หรือ 20% ของการนำเข้าทั้งหมดของจีน ในช่วงเดียวกัน

การนำเข้าของจีนส่วนใหญ่เป็นน้ำมันดิบเอสโป เบลนด์ ( ESPO Blend) ของรัสเซีย ซึ่งขายเกินราคากำหนด ในขณะที่อินเดียซื้อน้ำมันยูราลส์ (Urals) เป็นหลัก

เอ็มม่า ลี นักวิเคราะห์จากบริษัทวอร์เทซา (Vortexa) ซึ่งวิเคราะห์ตลาดพลังงานกล่าวว่า หากมีการบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรอย่างเข้มงวด การส่งออกน้ำมันดิบเอสโป เบลนด์ของรัสเซียจะถูกระงับ แต่จะขึ้นอยู่กับว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐยกเลิกการคว่ำบาตรหรือไม่ และจีนยอมรับมาตรการคว่ำบาตรหรือไม่ด้วย