“วัดประชาคมวนาราม” หรือ วัดป่ากุง ตั้งอยู่หมู่ 11 ต.ศรีสมเด็จ อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด สร้างโดย “หลวงปู่ศรี มหาวีโร” หรือ พระเทพวิสุทธิมงคล อดีตเจ้าอาวาสวัดประชาคมวนาราม

เข้ามาพัฒนาวัดแห่งนี้ตั้งแต่ พ.ศ.2496 เดิมเป็นวัดเก่าแก่มีอายุกว่า 170 ปี เป็นผู้นำศรัทธาญาติโยมพัฒนาวัดประชาคมวนาราม จนเจริญรุ่งเรืองดังปรากฏ

หลวงปู่ศรี มหาวีโร พระวิปัสสนาจารย์สายอีสาน ที่ได้รับความเลื่อมใสศรัทธา สืบสายธรรมจากหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต บูรพาจารย์สายพระป่า

เมื่อพุทธศาสนิกชน เข้าไปในบริเวณวัดประชาคมวนาราม (วัดป่ากุง) แห่งนี้ จะสัมผัสได้ถึงความร่มรื่นร่มเย็นอย่างชัดเจน เนื่องเพราะภายในวัด อุดมไปด้วยแมกไม้น้อยใหญ่นานาพันธ์

วัตถุประสงค์หลักคือ กราบสักการะอัฐิธาตุหลวงปู่ศรี ที่เจดีย์มหาวีราจริยานุสรณ์หลวงปู่ศรี มหาวีโร ตั้งอยู่บริเวณกลางสระน้ำขนาดใหญ่ เพื่อน้อมรำลึกถึงคุณงามความดี ถึงแม้มรณภาพไปนานกว่าสิบปี แต่ยังอยู่ในศรัทธาของพุทธศาสนิกชนไม่มีเสื่อมคลาย

มีนามเดิม ว่า ศรี ปักกะสีนัง เกิดเมื่อวันที่ 3 พ.ค.2460 ที่บ้านขามป้อม อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม

อายุ 28 ปี เข้าพิธีอุปสมบท ที่พัทธสีมาวัดราษฎร์รังสรรค์ บ้านป่ายาง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด มีพระโพธิญาณมุนี (ดำ) เจ้าคณะจังหวัดร้อยเอ็ด (ธรรมยุต) เป็นอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า มหาวีโร

หลวงปู่ศรี-มหาวีโร

พ.ศ.2489 ชจาริกไปจำพรรษาที่วัดป่าแสนสำราญ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี มีโอกาสศึกษาปฏิบัติธรรม เจริญวิปัสสนา กับพระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม ศิษย์ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต

ด้วยความเลื่อมใสศรัทธาในปฏิปทาของหลวงปู่มั่น บูรพาจารย์ด้านวิปัสสนากรรมฐาน ซึ่งขณะนั้นอยู่ในช่วงปัจฉิมวัย พำนักอยู่ที่สำนักป่า อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร

จึงไปกราบนมัสการ และศึกษาธรรมด้วย พร้อมทั้งอุปัฏฐากรับใช้ จนกระทั่งหลวงปู่มั่น ถึงแก่มรณภาพ

จำพรรษาที่วัดประชาคมวนาราม หรือวัดป่ากุง ตั้งแต่ปี พ.ศ.2507 เป็นต้นมา โดยเป็นผู้นำในการสร้างคุณูปการ และสาธารณประโยชน์เป็นจำนวนมาก

ที่เป็นงานยิ่งใหญ่ คือ การก่อสร้างพระมหาเจดีย์ชัยมงคล ที่วัดผาน้ำทิพย์ อ.หนองพอก จ.ร้อยเอ็ด ประดิษฐานตระหง่านตระการตา ด้วยฝีมือลูกหลานไทย เป็นปูชนียสถานสำคัญสืบไปภายภาคหน้า

ลำดับสมณศักดิ์ วันที่ 12 ส.ค.2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชสังวรอุดม

พ.ศ.2545 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นเทพฝ่ายวิปัสสนาธุระที่ พระเทพวิสุทธิมงคล

เป็นพระวิปัสสนาจารย์ที่เป็นสหธรรมิกที่ถูกอัธยาศัย อาทิ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน, หลวงปู่บัว สิริปุณโณ, พระอาจารย์ชา สุภัทโท ซึ่งพระคณาจารย์เหล่านี้ เคยออกเดินธุดงค์บำเพ็ญสมณธรรมด้วยกันทั้งสิ้น

เป็นร่มโพธิ์สำหรับสาธุชนทุกคน มีเมตตาธรรมเสมอภาค ไม่เคยแบ่งชั้นแก่ผู้ใด ท่านที่เดินทางไปวัดประชาคมวนาราม จ.ร้อยเอ็ด ก็จะได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี

ละสังขารด้วยอาการสงบ เมื่อวันที่ 16 ส.ค.2554 เวลา 05.33 น. สิริอายุ 94 ปี 3 เดือน 13 วัน พรรษา 65

ต่อมา มีการสร้างเจดีย์อนุสรณ์ครอบอัฐิของท่านไว้บริเวณเมรุชั่วคราวแห่งนี้ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้กราบไหว้สักการบูชา

เมื่อนักท่องเที่ยว เข้ามากราบสักการะอัฐิธาตุในเจดีย์อนุสรณ์หลวงปู่ศรีแห่งนี้ ไม่ควรพลาดในการไปเที่ยวชมถาวรวัตถุที่สำคัญประจำวัดที่หลวงปู่ศรี สร้างไว้ยิ่งใหญ่อลังการ คือ มหาเจดีย์บุโรพุธโธ จำลองจากบุโรพุทโธ ประเทศอินโดนีเซีย

จุดเด่นเป็นเจดีย์ขนาดใหญ่ทำจากหินทรายธรรมชาติเป็นแห่งแรกในประเทศไทย สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ครบรอบ 90 ปี พรรษา 60 หลวงปู่ศรี มหาวีโร

โดยเคยไปปฏิบัติศาสนกิจจำพรรษาที่ประเทศอินโดนีเซีย จึงมีความประทับใจมหาเจดีย์บุโรพุทโธ

หลังกลับวัดป่ากุง จึงร่วมมือกับญาติโยมสร้างมหาเจดีย์บุโรพุทโธจำลอง จนแล้วเสร็จ กลายเป็นจุดเที่ยวชมที่สำคัญรองลงมาจากเจดีย์อนุสรณ์หลวงปู่ศรี มหาวีโร ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายภาพเซลฟี่เป็นที่ระลึก

การเดินทางมาวัดประชาคมวนาราม (วัดป่ากุง) เส้นทางการคมนาคมสะดวก ถนนลาดยางตลอดสาย เข้าได้หลายทาง