สาวผวา ร้องเพจดัง ถูกหนุ่มอ้างเป็นตำรวจยศใหญ่ หลานแท้ ๆ พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร หลอกสูบเงินร่วมแสน ซ้ำถูกคุกคามถึงบ้าน หลังแจ้งความจับฐานฉ้อโกง หวั่นความไม่ปลอดภัย

เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2568 เพจ โหนกระแส ได้มีการเผยแพร่เรื่องราวของสาวรายหนึ่ง ถูกตำรวจเก๊ อ้างเป็นหลานแท้ ๆ ของท่านเรวัช มาหลอกให้รัก และสูบเงินร่วม 100,000 บาท แจ้งความจับแล้วกลับได้ประกันตัวออกมา ตามคุกคามถึงหน้าบ้าน เหยื่อหวั่นไม่ปลอดภัย วอนเพจดังช่วยประสานเจ้าหน้าที่

หญิงผู้เสียหาย เปิดเผยเรื่องราวทั้งหมดว่า ได้รู้จักกับ นายเอ (นามสมมติ) ผ่านทาง TikTok เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยนายเอได้ทักเข้ามาพูดคุยและแนะนำตัวเองว่า เป็นข้าราชการตำรวจยศ พันตำรวจโท และยังอ้างว่าเป็นหลานแท้ ๆ ของ พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ผบช.ปส.) ชื่อดังเจ้าของฉายา “นายพลมือปราบ” ด้วยความที่ผู้เสียหายเป็นแฟนคลับของ พล.ต.ท.เรวัช อยู่แล้ว จึงหลงเชื่อคำกล่าวอ้างดังกล่าวอย่างง่ายดาย

หลังจากผู้เสียหายและนายเอพูดคุยกันได้ประมาณ 1 เดือน นายเอ ก็ขอเป็นแฟน ซึ่งเธอก็ตอบตกลงเพราะเชื่อว่าเป็นตำรวจจริงและเป็นหลานของบุคคลที่ตนชื่นชอบ เมื่อความสัมพันธ์เริ่มต้นขึ้น นายเอก็เริ่มใช้อุบายต่างๆ มาหลอกขอยืมเงิน ตั้งแต่หลักพันบาทไปจนถึงหลักหมื่นบาท โดยมักอ้างว่าจะนำเงินไปเป็นค่าใช้จ่ายในการทำงาน

นอกจากการหลอกยืมเงิน นายเอยังสร้างเรื่องราวให้ดูน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น โดยมักชักชวนผู้เสียหายเดินทางไปต่างจังหวัดด้วย อ้างว่าต้องไปสืบหาข่าวเกี่ยวกับยาเสพติด แต่จะให้ผู้เสียหายรออยู่ที่ห้องพัก เมื่อผู้เสียหายขอให้พาไปพบ พล.ต.ท.เรวัช ก็มักจะถูกบ่ายเบี่ยง อ้างว่านายพลคนดังงานยุ่ง

ต่อมาประมาณเดือนมกราคม 2568 นายเอได้ขอผู้เสียหายแต่งงาน โดยอ้างว่าจะไปจัดงานวิวาห์กันที่ “ไร่ ณ กานดา” ของ พล.ต.ท.เรวัช ที่ จ.กาญจนบุรี ในวันที่ 10 พฤษภาคม 2568 โดยอ้างว่า ท่านเรวัช และภรรยา จะเป็นผู้ดูแลจัดการเรื่องงานแต่งให้ทั้งหมด ทำให้ผู้เสียหายยิ่งหลงเชื่อ

เรื่องราวเริ่มแดงขึ้น เมื่อผู้เสียหายนำเรื่องการเตรียมงานแต่งงานไปปรึกษาเพื่อนสนิท ซึ่งเพื่อนเกิดความสงสัยในตัวนายเอ จึงได้ช่วยตรวจสอบข้อมูล และพบว่า ชื่อของนายเอไม่ได้อยู่ในสารบบของตำรวจแต่อย่างใด อีกทั้งพนักงานที่ ไร่ ณ กานดา ก็ยืนยันว่าไม่มีการจัดงานแต่งงานใด ๆ และทางไร่ไม่เคยรับจัดงานแต่งงานมาก่อน

หลังทราบความจริงทั้งหมดว่ากำลังถูกหลอก ผู้เสียหายจึงได้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับนายเอ ที่สถานีตำรวจแห่งหนึ่ง ในข้อหา ฉ้อโกง เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา

ในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวนายเอได้ และส่งสำนวนฟ้องต่อศาลจังหวัดนนทบุรี แต่นายเอได้รับการประกันตัวออกมาในวงเงิน 10,000 บาท หลังจากเป็นอิสระ นายเอได้พยายามติดต่อผู้เสียหายในทุกช่องทาง เพื่อขอให้ยอมความและถอนแจ้งความ แต่ผู้เสียหายไม่ยินยอม

กระทั่งเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2568 นายเอได้ขี่รถจักรยานยนต์มาที่บ้านของผู้เสียหายในช่วงบ่าย แต่ผู้เสียหายไม่อยู่บ้าน นายเอจึงเขียนข้อความในลักษณะขอโทษใส่กระดาษมาแขวนไว้ที่ประตูรั้วบ้าน การกระทำดังกล่าวสร้างความหวาดกลัวให้กับผู้เสียหายเป็นอย่างมาก เพราะถือเป็นการบุกรุกมาถึงที่พักอาศัย ทั้งที่คดียังอยู่ระหว่างการพิจารณาและเพิ่งได้รับการประกันตัวออกมา ผู้เสียหายจึงได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายเอเพิ่มเติม ก่อนจะตัดสินใจร้องขอความช่วยเหลือจากเพจ “กล้าที่จะกล้า”

ด้าน นายบรูณ์ทิพัฒน์ เจริญลีฬหา ตัวแทนเพจ กล้าที่จะกล้า กล่าวว่า จากพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุ ถือว่ามีความอุกอาจ นอกจากจะแอบอ้างตัวเป็นตำรวจและหลานของนายพลคนดังเพื่อหลอกลวงทรัพย์สินแล้ว ยังมีพฤติกรรมคุกคาม ข่มขู่ ทำให้ผู้เสียหายเกิดความหวาดกลัว ทั้งที่เพิ่งได้รับการประกันตัวในชั้นศาล ซึ่งทางเพจจะดำเนินการประสานงานกับกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอให้ผู้เสียหายเข้าสู่โครงการคุ้มครองพยานโดยเร็วที่สุด เนื่องจากผู้เสียหายพักอาศัยอยู่เพียงลำพังและมีความกังวลเรื่องความปลอดภัยอย่างมาก

honekrasae

ข่าวล่าสุด