Grab หนุนร้านเล็ก ออกโปรแกรมพิเศษหวังช่วยร้านดันยอด-ขยายฐานลูกค้า พร้อมเปิดตัวแคมเปญพิเศษดึงร้านค้าใหม่ ไม่เก็บ GP ตลอด 3 เดือน เล็งเสริมสภาพคล่องผ่านการปล่อยสินเชื่อ ดันร้านค้าใช้ AI วางแผนการขาย

นางสาวจันต์สุดา ธนานิตยะอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า จากภาวะเศรษฐกิจโลกในปัจจุบันที่ยังคงมีความผันผวน ประกอบกับการชะลอตัวของภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยยังคงได้รับแรงกดดันอย่างต่อเนื่อง สะท้อนผ่านการปรับลดประมาณการอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทย ตลอดทั้งปีเหลือเพียง 1.8%

โดยธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักที่ได้รับผลกระทบโดยตรง เป็นที่คาดการณ์ว่าธุรกิจร้านอาหารและร้านเครื่องดื่มในปีนี้จะมีมูลค่าตลาดรวม 6.4 แสนล้านบาท และมีอัตราการเติบโตเพียง 2.8% เท่านั้น ปรับลดจากประมาณการในช่วงปลายปีที่ผ่านมาซึ่งระบุไว้ที่ 4.6% สะท้อนถึงความท้าทายที่ผู้ประกอบการต้องเผชิญหน้าและปรับตัว

“แกร็บพัฒนาแคมเปญการตลาดและจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยกระตุ้นการบริโภคกับผู้ใช้บริการในประเทศ ขณะเดียวกันยังได้ปรับแผนและพัฒนาโซลูชั่นต่าง ๆ เพื่อช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการร้านอาหาร ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญในห่วงโซ่ธุรกิจ เพื่อให้พาร์ตเนอร์ร้านค้าสามารถขับเคลื่อนธุรกิจไปได้ในช่วงเวลาที่ท้าทาย”

นางสาวจันต์สุดากล่าวด้วยว่า แกร็บเดินหน้าสนับสนุนผู้ประกอบการร้านอาหาร โดยเฉพาะร้านขนาดเล็ก ผ่าน 3 แนวทางหลัก ได้แก่

1.โปรแกรมพิเศษช่วยดันยอด-ขยายฐานลูกค้า

นอกจากการจัดแคมเปญส่งเสริมการขาย เช่น การให้ส่วนลดค่าอาหารหรือค่าจัดส่ง และการโปรโมตร้านอาหารผ่านแอปและสื่อต่าง ๆ เพื่อเพิ่มการมองเห็นอย่างต่อเนื่องแล้ว

แกร็บยังได้พัฒนาโซลูชั่นที่ช่วยสนับสนุนและกระตุ้นยอดขายให้กับร้านค้าขนาดเล็กโดยเฉพาะ อาทิ โปรแกรม “ร้านเล็กแกร็บช่วยลด” ที่ช่วยให้ร้านอาหารขนาดเล็กสามารถดึงดูดลูกค้าด้วยการให้ส่วนลด โดยแกร็บจะสมทบส่วนลดให้ในอัตราเดียวกัน ซึ่งพบว่าร้านค้าที่เข้าร่วมแคมเปญมียอดสั่งซื้อเฉลี่ยต่อออร์เดอร์เพิ่มขึ้นกว่า 70% เมื่อเทียบกับร้านทั่วไป

โปรแกรม “ร้านเล็กดันลูกค้าใหม่” ที่มุ่งเน้นการขยายฐานลูกค้าใหม่ด้วยการแจกโค้ดส่วนลดหรือเพิ่มสื่อโปรโมตภายในแอป ซึ่งช่วยเพิ่มจำนวนลูกค้าใหม่ได้สูงกว่าปกติมากกว่า 50%

และแคมเปญพิเศษ “เปิดร้านง่าย โตไวไปกับแกร็บฟู้ด” สำหรับร้านอาหารที่ยังไม่เคยขายผ่าน Grab มาก่อน โดยให้สิทธิประโยชน์พิเศษต่าง ๆ ทั้งการยกเว้นค่าคอมมิชชั่น (GP) ตลอดระยะเวลา 90 วันแรก โปรแกรมดันยอดขายฟรี และการให้เครดิตค่าโฆษณาผ่านแอปมูลค่า 400 บาท เพื่อช่วยเพิ่มการมองเห็นและเข้าถึงลูกค้าใหม่ ตั้งแต่วันนี้-31 ส.ค. 2568

2.ขยายโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุน

แกร็บพยายามเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการร้านอาหารรายใหม่ที่ต้องการเงินทุน เพื่อเสริมสภาพคล่องเข้าถึงบริการสินเชื่อรายย่อยมากขึ้น โดยในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ มีผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่ได้รับ “สินเชื่อเงินสดทันใจ” จากแกร็บคิดเป็นสัดส่วนถึง 40% ด้วยวงเงินสูงสุด 1 แสนบาท และมีอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 2.75% ต่อเดือน

ขณะที่อัตราหนี้เสีย (NPL) ของแกร็บยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่า 2% (เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของธนาคารพาณิชย์ที่อยู่ที่ 2.9% ในไตรมาสแรก) สะท้อนถึงคุณภาพของร้านค้าผู้กู้และประสิทธิภาพของระบบ AI ที่แกร็บนำมาใช้เพื่อวิเคราะห์และประเมินความเสี่ยงในการให้สินเชื่อ

3.พัฒนาศักยภาพร้านค้าด้วย AI

แกร็บได้พัฒนาและทดลองใช้ “AI Merchant Assistant” ซึ่งเป็นแชตบอตในแอปพลิเคชั่นของพาร์ตเนอร์ร้านค้า (GrabMerchant App) ที่ขับเคลื่อนด้วย LLMs เพื่อช่วยสนับสนุนร้านค้า โดยเฉพาะร้านขนาดเล็กที่ไม่สามารถเข้าถึงเครื่องมือวิเคราะห์เชิงลึกเหมือนกับแบรนด์ใหญ่ ๆ

เครื่องมือนี้จะทำหน้าที่เสมือนเป็นที่ปรึกษาธุรกิจ ให้คำแนะนำกับผู้ประกอบการร้านอาหารได้ตลอด 24 ชั่วโมง เช่น การจัดทำสรุปรายงานยอดขาย การพัฒนาปรับปรุงเมนูเพื่อให้โดนใจลูกค้า ไปจนถึงการวางแผนการตลาดและทำโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่และกระตุ้นยอดขาย เป็นต้น

นอกจากนี้ แกร็บยังคงเดินหน้าจัดกิจกรรม “Grab Merchant Conference” เพื่ออัพเดตเทรนด์ธุรกิจ พร้อมแนะนำเทคนิคการขาย โซลูชั่นและแคมเปญดันยอดขายต่าง ๆ เพื่อเสริมแกร่งทางธุรกิจ โดยในปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “พาร์ตเนอร์คู่คิด พิชิตยอดปัง” ในรูปแบบออนไลน์วันที่ 27 มิถุนายน 2568 ผ่านทาง Grab TH Facebook

นางสาวจันต์สุดาทิ้งท้ายด้วยว่า ตลอดระยะเวลากว่า 12 ปีของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย แกร็บยังยึดมั่นพันธกิจ GrabForGood มุ่งใช้เทคโนโลยีและแพลตฟอร์มของเราในการแก้ไขปัญหาชีวิตประจำวัน พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในวงจรธุรกิจ โดยเฉพาะผู้ประกอบการร้านอาหาร ซึ่งถือเป็นหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ

“เรายังคงมุ่งมั่นที่จะยืนหยัดเคียงข้างผู้ประกอบการเหล่านี้ ไม่ว่าจะในช่วงเวลาปกติหรือในยามที่ต้องเผชิญกับความท้าทาย และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนและส่งเสริมผู้ประกอบการร้านอาหารให้สามารถฝ่าฟันและเดินหน้าธุรกิจไปได้อย่างต่อเนื่อง”