“สรวงศ์ เทียนทอง” รัฐมนตรีการท่องเที่ยวฯ เดินหน้ายุทธศาสตร์ “Amazing Thailand Grand Tourism & Sport Year 2025” ดึง Soft Power ไทย ทั้งอาหาร มวย ภาพยนตร์ และเวลเนส ขับเคลื่อนการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน พร้อมดึงนวัตกรรม-ความปลอดภัย-วัฒนธรรม สู่เป้าหมายใหญ่ 40 ล้านนักท่องเที่ยว สร้างรายได้ทะลุ 3.5 ล้านล้านบาท
นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวในงานเสวนา SPLASH-Soft Power Forum 2025 ภายใต้หัวข้อ Thailand Rising: Tourism, Education and the New Soft Power Frontier ว่าเมื่อประเทศไทยก้าวเข้าสู่ปี 2568 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ประกาศเดินหน้ายุทธศาสตร์สำคัญ
โดยในครึ่งปีแรกได้ขับเคลื่อนภายใต้นโยบาย “Amazing Thailand Grand Tourism & Sport Year 2025” ที่มีเป้าหมายไม่เพียงแค่เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว แต่ยังเน้นการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ผ่านพลังแห่ง “ซอฟต์พาวเวอร์” ที่ฝังอยู่ในวัฒนธรรม วิถีชีวิต และตัวตนของคนไทย
นอกจากนี้ กระทรวงฯได้สานต่อนโยบายเดิมที่รัฐมนตรีสุดาวรรณได้ริเริ่มไว้ โดยเฉพาะแนวทาง Soft Power ที่ครอบคลุม 11 ด้าน ซึ่งเชื่อมโยงกับภาคการท่องเที่ยวและกีฬาอย่างแน่นแฟ้น ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทย มวยไทย เวลเนส อัญมณี หรือภาพยนตร์ ซึ่งล้วนเป็นจุดแข็งที่ชาวต่างชาติหลงใหล
“เมื่อเดินทางไปต่างประเทศ หลายรัฐมนตรีต่างชาติต่างถามว่า เมืองไทยมีดีอะไร ทั้งที่ทะเลหรือภูเขาของประเทศอื่นอาจสวยกว่าด้วยซ้ำ คำตอบคือ ‘คนไทย’ เรามีเซอร์วิสมายด์โดยธรรมชาติ ความเป็นมิตร ความอบอุ่น สิ่งนี้คือซอฟต์พาวเวอร์ตัวจริงที่ดึงนักท่องเที่ยวให้กลับมา”
ขณะเดียวกัน กระทรวงฯ ได้ผลักดันกลยุทธ์ “5 Grand” ได้แก่ Grand Festival, Grand Moment, Grand Destination, Grand Event และ Grand Experience เพื่อสร้างสีสันและความน่าประทับใจใหม่ ๆ ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เช่น การจัดเทศกาลใหม่ ๆ อย่าง Grand Diwali ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมอินเดีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตอบรับอย่างล้นหลามจากตลาดอินเดียที่ทำสถิติสูงสุดใหม่ในปีที่ผ่านมา ด้วยนักท่องเที่ยวกว่า 2.1 ล้านคน
อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญคือการร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ ในการผลักดันกิจกรรมด้านกีฬา เช่น การแข่งขัน FIVB Volleyball World Championship, MotoGP และการเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ปลายปี ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นการต่อยอด Soft Power ในมิติของกีฬา
นายสรวงศ์เล่าต่อว่า จากประสบการณ์ในเมืองเวโรนา ประเทศอิตาลี ที่นำคณะนักมวยไทยเข้าร่วมแสดงโชว์ในโคลีเซียมอันยิ่งใหญ่ โดยมีการบรรเลงเพลงชาติไทยอย่างกึกก้อง ซึ่งสร้างความภาคภูมิใจอย่างที่สุด
“บรรยากาศทำให้ผมรู้สึกประหม่า ทั้งที่เคยพูดต่อหน้าคนนับหมื่น แต่นี่คือเวทีระดับโลกที่สะท้อนว่ามวยไทยไม่ใช่แค่กีฬา แต่คือวัฒนธรรมไทยที่ลึกซึ้ง”
นายสรวงศ์กล่าวเพิ่มเติมว่า อีกด้านหนึ่งที่กำลังเติบโตคือ “เวลเนส” (Wellness) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงสาธารณสุข โดยมีการเปิดบูธที่ World Expo ณ เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น พร้อมโชว์ศักยภาพของไทยในฐานะจุดหมายปลายทางเพื่อสุขภาพระดับโลก
นอกจากนี้ ภาพยนตร์ก็เป็นอีก Soft Power ที่สร้างรายได้ให้ประเทศอย่างมหาศาล ปีที่ผ่านมามีภาพยนตร์ต่างชาติเข้ามาถ่ายทำในไทยกว่า 500 เรื่อง ทำรายได้กว่า 10,000 ล้านบาท รัฐบาลจึงได้ขยายมาตรการ “ฟิล์มอินเซนทีฟ” จาก 15% เป็นสูงสุด 30% เพื่อจูงใจให้มีการถ่ายทำในไทยมากขึ้น โดยเฉพาะในจังหวัดเมืองรอง
จากข้อกังวลเรื่องความปลอดภัย นายสรวงศ์ย้ำว่าประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในโลก ซึ่งตำรวจท่องเที่ยวไทยมีเพียง 1,800 นายทั่วประเทศ แต่ได้รับการสนับสนุนจากตำรวจท้องที่ และเตรียมนำ AI และระบบ Tracking หน้าเข้ามาใช้เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว แต่อย่างไรก็ตาม “คนไทยกันเอง” บางครั้งกลับไปโพสต์ Discredit ประเทศ ทำให้ภาพลักษณ์ของไทยเสียหายโดยไม่จำเป็น พร้อมยกตัวอย่างการจัดอันดับจาก Time Magazine ที่ให้เชียงใหม่เป็นเมืองที่ปลอดภัยที่สุดในโลกสำหรับผู้หญิงเดินทางคนเดียว
นายสรวงศ์กล่าวต่อและว่า เพื่อรองรับการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน กระทรวงฯ อยู่ระหว่างผลักดันแนวคิดเก็บ “traveling fee” จากนักท่องเที่ยวต่างชาติคนละ 300 บาท โดยจะรวมประกันภัยการเดินทาง เพื่อให้สามารถดูแลนักท่องเที่ยวได้ดีขึ้น พร้อมเป็นกองทุนสำหรับการดูแลแหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในอนาคต
“ประเทศภูฏานเก็บ Sustainability Fee ถึงวันละ 100 ดอลลาร์สหรัฐ ญี่ปุ่นก็มี Sayonara Tax ดังนั้นถึงเวลาที่เราจะเริ่มวางแผนให้เกิดผลในระยะยาว”
ท้ายที่สุด ต้องเน้นย้ำว่า การท่องเที่ยวในโลกยุคใหม่ต้องผสาน Soft Power กับนวัตกรรม และความยั่งยืน ทั้งในเรื่องสิ่งแวดล้อม ความเท่าเทียม และคุณภาพชีวิตของนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม รวมถึงผู้พิการ โดยมีเป้าหมายสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท และดันจำนวนนักท่องเที่ยวกลับไปแตะ 40 ล้านคนภายในปีหน้า
“Soft Power อยู่ในตัวคนไทยทุกคน เราแค่ต้องดึงออกมาให้เป็นระบบ นำเสนอให้โลกเห็นว่านี่แหละคือเสน่ห์ของประเทศไทย”
Contact to : xlf550402@gmail.com
Copyright © boyuanhulian 2020 - 2023. All Right Reserved.