“อิ๊งค์” เปิดงาน THACCA SPLASH ชู 5 กลยุทธ์ดันไทยสู่เวทีโลก จัดใหญ่ 4 วันเต็ม “ซอฟต์พาวเวอร์ไทย” พื้นที่แห่งแรงบันดาลใจที่ศูนย์สิริกิติ์ “หมอเลี้ยบ” ผลักดัน “วัฒนธรรม” เป็นเครื่องยนต์เศรษฐกิจใหม่ สร้างรายได้อนาคตยั่งยืน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 8-11 กรกฎาคม 2568 ภาครัฐและเอกชนได้จัดกิจกรรมใหญ่ “THACCA SPLASH Soft Power Forum 2025” มหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้สัมผัสประสบการณ์ระดับเวิลด์คลาส และผลักดันอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ไทยทั้ง 14 สาขาจากศิลปินหลายแขนง และงานสร้างสรรค์วัฒนธรรมท้องถิ่นที่จัดขึ้นใน 27 โรงแรมชั้นนำทั่วกรุงเทพฯ ตลอดเดือนกรกฎาคมนี้ รวมถึงไฮไลต์ในวันที่ 9 กรกฎาคมนี้จาก 88rising บริษัทค่ายเพลงสัญชาติอเมริกัน ก่อตั้งโดยฌอน มิยาชิโร-เจสัน มา และพันธมิตร ที่จะนำเสนอ “Road to FAM-The Finale” ณ สถานีรถไฟหัวลำโพง

ชู 5 กลยุทธ์ดันไทยสู่โลก

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เป็นประธานในพิธีเปิดงาน SPLASH Soft Power Forum 2025 โดยมีคณะรัฐมนตรี ผู้บริหารภาครัฐ ภาคเอกชน คณะทูตานุทูตประจำประเทศไทย และคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ ร่วมงาน ณ เวที Visionary Stage Hall 4 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายในงานมี 6 โซนไฮไลต์บอกเล่าเรื่องราวเป้าหมายการทำงานของ THACCA รวมทั้งพื้นที่สร้างเครือข่ายทางธุรกิจ และเวิร์กช็อป สร้างทักษะใหม่ให้เยาวชน ผู้ประกอบการ หวังจุดประกายสร้างโอกาสให้คนไทยและขยายโอกาสทางธุรกิจสู่ระดับสากล

“โลกทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซับซ้อน และไม่แน่นอน ประเทศไทยต้องปรับตัวจากการพึ่งพาอุตสาหกรรมแบบเดิม เช่น การเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ หรือครัวของโลก ไปสู่การใช้วัฒนธรรมสร้างสรรค์เป็นพลังเศรษฐกิจใหม่ ผ่านการขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ที่มีรากจากท้องถิ่น แต่สื่อสารได้อย่างสากล”

โดยมี 5 กลยุทธ์หลักในการยกระดับอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์สู่เวทีโลก ได้แก่

1.อาหารไทย เปิดโมเดล “Thai Cuisine” ศูนย์รวมร้านอาหารไทย 4 ภาค และซูเปอร์มาร์เก็ตสินค้าไทยในต่างประเทศ พร้อมผลักดันการท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Thai Culinary Tourism) และยกระดับมาตรฐาน “Thai Select” สู่ระดับโลก

2.มวยไทย การสร้างกระแส “Muay Thai Bootcamp” ไลฟ์สไตล์สายสุขภาพควบคู่กับการ Detox และสมาธิ พร้อมพัฒนาลีกอาชีพและการแข่งขันมาตรฐานสากล

3.Thai Wellness การผสานศาสตร์นวดไทย สมุนไพร และอาหารสุขภาพ สู่ “Thai Retreat Chain” ที่ให้บริการแบบองค์รวม พร้อมผลักดันสมุนไพร และนวดไทยด้วยฐานวิจัยทางการแพทย์

4.ภาพยนตร์ไทย ส่งเสริมการสร้างสรรค์ผ่าน “Writer’s Room” และ “Creative Lab” สนับสนุนด้วย Cash Rebate ตั้งกองทุน Coproduction และจัดเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ เพื่อเปิดตลาดภาพยนตร์ไทยสู่สากล

5.อัญมณีไทย ยกระดับจาก “ช่าง” สู่ “ศิลปิน” ด้วยการฝึกอบรมและมาตรการส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมาย เพิ่มมูลค่าส่งออกแตะ 1 ล้านล้านบาทภายใน 5 ปี

รมว.กระทรวงวัฒนธรรม ย้ำว่า ซอฟต์พาวเวอร์ไม่ใช่เพียงวัฒนธรรมที่น่าภาคภูมิใจ แต่คือเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ที่สร้างรายได้มหาศาล ประเทศไทยมีทุกองค์ประกอบที่โลกต้องการ ทั้งความคิดสร้างสรรค์ ความหลากหลาย ความยั่งยืน และความเป็นของแท้ นโยบายปี 2567 ได้เน้นบูรณาการภาครัฐ-เอกชน และการเปลี่ยนบทบาทภาครัฐ จากผู้ควบคุมเป็น “ผู้สนับสนุน” ที่เปิดทางให้เอกชนนำ

ดังนั้น งาน SPLASH Soft Power Forum 2025 ไม่ใช่แค่เวทีแสดงศักยภาพ แต่คือพื้นที่แห่งความร่วมมือ แรงบันดาลใจ และอนาคตของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทย

“วัฒนธรรม” เครื่องยนต์เศรษฐกิจใหม่

ขณะที่นายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ประธานกรรมการซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ นำคณะสื่อมวลชนเยี่ยมชมบูทและนิทรรศการ มหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ไทยในครั้งนี้ด้วย ภายใต้ธีม “งานวัดไทย” ที่นำความมีชีวิตชีวาและสัญลักษณ์ของงานวัด เช่น ชิงช้าสวรรค์และการก่อเจดีย์ทราย มาตกแต่งในบูท

ถัดมาคือ อุตสาหกรรมศิลปะ (Art) โดยนำแนวคิด A-R-T Awaken ผ่านการจัดแสดงศิลปะร่วมสมัย สะท้อนถึงรากเหง้าศิลปะไทย

จากนั้น นำชมอุตสาหกรรมออกแบบ (Design) อุตสาหกรรมแฟชั่น (Fashion) อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมเวลเนส (Tourism & Wellness) ไปจนถึงอุตสาหกรรมอาหาร (Food) ที่มีโซนน่าสนใจอย่าง Immersive Exhibition และการสาธิตทำอาหารจากเชฟมากฝีมือ อาทิ ร้านศรีเรือนผัดไทยขอนแก่น การันตีรางวัลมิชลิน บิบ กูร์มองด์ มาให้ชิมกันด้วย

“แม้ประเทศไทยจะมีวัฒนธรรมที่แข็งแกร่ง อย่างอาหารไทย มวยไทย ภาพยนตร์ แต่ยังขาดระบบสนับสนุนที่ดีพอให้แข่งขันในตลาดโลก จุดนี้คือสิ่งที่รัฐบาลใช้เวลาและความทุ่มเทอย่างมากในการสร้างแบรนด์และความนิยมในระดับนานาชาติ”

นโยบายซอฟต์พาวเวอร์ที่รัฐบาลทำในวันนี้ อาจใช้เวลาในอีก 10 ปีข้างหน้าในการแสดงผลลัพธ์ แต่วันนี้รัฐบาลแสดงให้เห็นถึงความจริงจังในการส่งเสริมและผลักดันการทำงานให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม

การจัดงาน SPLASH ถือเป็นการต่อยอดความสำเร็จจากปีที่ผ่านมา ในรูปแบบ Business Showcase ด้วยแนวคิดวัฒนธรรมสร้างสรรค์ โอกาสเปล่งประกาย โดยตั้งเป้าให้ซอฟต์พาวเวอร์ไทยเป็นเครื่องยนต์ใหม่นำพาเศรษฐกิจไทยให้เติบโตยั่งยืน

แบ่งพื้นที่ 6 โซนหลัก

งาน SPLASH แบ่งพื้นที่ออกเป็น 6 โซนหลัก ได้แก่

1.Creative Culture Village – โชว์เคส 14 อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ไทย ตั้งแต่อาหาร ภาพยนตร์ ดนตรี แฟชั่น จนถึงการท่องเที่ยว ในรูปแบบอินเตอร์แอ็กทีฟที่เข้าถึงคนรุ่นใหม่

2.THACCA Pavilion – ศูนย์รวมองค์ความรู้ ยุทธศาสตร์ และเครื่องมือการสร้างแบรนด์ไทยด้วยซอฟต์พาวเวอร์ พร้อมคำแนะนำเชิงลึกสำหรับผู้ประกอบการ

3.Glo-Cal Networking – พื้นที่จับคู่ธุรกิจ เชื่อมโยงนักลงทุนกับผู้ประกอบการทั้งไทยและต่างชาติ สร้างเครือข่ายระดับโลก

4.Workshop & Masterclass – หลักสูตรอบรมภายใต้โครงการ “One Family One Soft Power (OFOS)” เปิดโอกาสให้เยาวชน นักศึกษา และผู้ประกอบการเรียนรู้กับผู้เชี่ยวชาญโดยตรง

5.Experiential Zone – นิทรรศการเทคโนโลยี “Multisensory Mindfulness Experiences” กระตุ้นประสาทสัมผัสทั้ง 5 ถ่ายทอดประสบการณ์ซอฟต์พาวเวอร์ไทยแนวใหม่

6.Visionary Stage – เวทีเสวนาระดับโลกที่รวมนักคิดและนักสร้างสรรค์ตัวจริง ก่อเกิดแรงบันดาลใจสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์

“ปีนี้ไม่ได้เน้นเพียงประกาศนโยบาย แต่เจาะลึกถึงการปฏิบัติจริง พร้อมนำเสนอผลงานรูปธรรมจากบุคคลและคนรุ่นใหม่ที่เป็นดาวรุ่งใน 14 อุตสาหกรรม เพิ่มขึ้นจากปีก่อนซึ่งมีเพียง 11 อุตสาหกรรม”

อุตสาหกรรมใหม่ ได้แก่ ละครและซีรีส์, ภาพยนตร์และศิลปะการแสดง และเวลเนส (Wellness) สะท้อนถึงการให้ความสำคัญกับการสร้างเศรษฐกิจแบบครบวงจร พร้อมเปิดเวทีให้คนรุ่นใหม่แสดงศักยภาพในระดับโลก

นอกจากนี้ ภายในงานมีโซนกิจกรรมสำคัญ อาทิ เวทีเสวนานานาชาติ การแสดงวิสัยทัศน์ของผู้นำระดับโลก โดยได้รับเกียรติจากนายทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนที่ 23 แสดงวิสัยทัศน์หัวข้อ “Crafting the Future : From OTOP to ThaiWORKS and beyond” ในวันที่ 9 กรกฎาคม 2568 และนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 แสดงวิสัยทัศน์หัวข้อ “Rethinking Thai Sports in Disruptive Era” ในวันที่ 10 กรกฎาคม 2568

Contact to : xlf550402@gmail.com


Privacy Agreement

Copyright © boyuanhulian 2020 - 2023. All Right Reserved.