แม้ว่าธุรกิจ “ฟู้ดดีลิเวอรี่” ในไทยจะสิ้นยุคสร้าง Fake Demand ด้วยการ “เผาเงิน” แจกโค้ดส่วนลดหนัก ๆ หรือกระหน่ำโปรโมชั่นรายวันมานานมาก ๆ แล้ว เพราะแพลตฟอร์มแต่ละรายปรับโฟกัสไปที่ผลตอบแทนทางธุรกิจ ทำตลาดแบบเน้น “คุณภาพ” มากกว่า “ปริมาณ” เพื่อเดินหน้าสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

แต่ด้วยกำลังซื้อที่ซบเซาทำให้ปรากฎการณ์โค้ดส่วนลดแบบฉ่ำ ๆ กลับมาอีกครั้ง เมื่อ 2 ยักษ์แพลตฟอร์มดีลิเวอรี่ “แกร็บ” (Grab) และ “ไลน์แมน” (LINE MAN) เดินเกมสงครามราคาครั้งใหม่ผ่านแคมเปญใหญ่ช่วงครึ่งหลังปี 2568

ถึงภาพรวมไม่เดือดเท่า “สงครามหม้อต้ม” แต่ก็นับเป็นมูฟเมนต์ใหญ่ที่ทำให้ภาพการแข่งขันในตลาดฟู้ดดีลิเวอรี่น่าจับตา

“แกร็บ” อัดโปรฯช่วยผู้ใช้-ร้านค้า

“พนมกร จิระเสถียรพงศ์” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและสถานการณ์ค่าครองชีพที่สูง ผู้บริโภคต้องเผชิญกับภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นราว 1.5% ต่อปี ส่งผลให้มีความระมัดระวังการใช้จ่ายกันมากขึ้น

แกร็บฟู้ด (GrabFood) จึงส่งแคมเปญใหญ่ช่วงกลางปีมาเอาใจสายกิน เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคที่ทุกคนรัดเข็มขัด โดยมองหาสินค้าและบริการที่ยังคงคุณภาพในราคาที่เข้าถึงได้ พร้อมตอกย้ำจุดแข็งด้านความคุ้มค่ากับแคมเปญ “GrabFood Mega Sale ลดแรง ตัวจริง”

เริ่มจากการให้ดีลส่วนลดภายใต้ “Hot Deals” กว่า 250,000 ดีล ทุบสถิติสูงสุดเท่าที่เคยมี เคาะราคาช่วยมื้อประหยัดเริ่มต้น 30 บาท และลดเพิ่มอีกสูงสุด 60% ไม่มีขั้นต่ำ เมื่อใส่โค้ด MEGA และโปรโมชั่นส่งฟรี 0 บาท (ตามเงื่อนไขที่กำหนด)

แคมเปญนี้มีจำนวนพาร์ตเนอร์ร้านค้ารายย่อยทั่วประเทศเข้าร่วมเพิ่มขึ้นกว่า 40% จากไตรมาส 1/68 นอกจากจะเป็นการเพิ่มตัวเลือกที่หลากหลายและครอบคลุมให้กับผู้บริโภคแล้ว ยังช่วยกระตุ้นยอดขายให้กับผู้ประกอบการร้านอาหารขนาดเล็กและรายย่อย โดยเฉพาะในช่วงสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว

พนมกร จิระเสถียรพงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด แกร็บ ประเทศไทย

“ไลน์แมน” ส่งโปรลดซ้อน 6 ต่อ

ฝั่งของไลน์แมนก็ไม่น้อยหน้า หลังจากที่ปลายปี 2567 ทุ่มงบฯการตลาด 300 ล้านบาท ไปกับแคมเปญ “ถูกสุดทุกวัน” ชูความคุ้มค่าจากส่วนลดหลายต่อ และครึ่งหลังของปีนี้ ก็ส่ง “ถูกสุดทุกวัน” กลับมาในเวอร์ชั่นใหม่ โดยเพิ่มส่วนลดถึง 6 ต่อ (ตามเงื่อนไขที่กำหนด) ใช้ได้กับ 2 แสนร้านค้าทั่วประเทศ

  • ต่อที่ 1 – รับโค้ดลดเพิ่มสูงสุด 50% แบบไม่มีขั้นต่ำ
  • ต่อที่ 2 – โปรเดือด เมนูเริ่มต้น 19 บาท
  • ต่อที่ 3 – ส่งฟรี 0 บาท ทุกมื้อ
  • ต่อที่ 4 – โบนัสสั่งเยอะ ลดเพิ่ม 20 บาท
  • ต่อที่ 5 – สมัคร LINE MAN VIP ใช้ฟรี 1 เดือน (ปกติ 99 บาท/ปี) และรับโค้ดส่วนลดรวมสูงสุด 1,500 บาท ครอบคลุมทั้งบริการ FOOD, MART, RIDE และ MESSENGER
  • ต่อที่ 6 – จ่ายผ่าน LINE Pay รับ LINE POINTS คืนสูงสุด 150 บาท

สิ่งที่น่าสนใจจากการอัพเกรดแคมเปญครั้งนี้ของ “ไลน์แมน” ไม่ใช่แค่การเข้าถึงลูกค้าด้วยภาพลักษณ์ของการเป็น “ตัวช่วย” ที่ทำให้ทุกวันของคนไทยประหยัดขึ้น พึ่งพาได้ทุกมื้อ ทุกเวลา แต่ยังเป็นการเชื่อมต่ออีโคซิสเต็มให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ผ่านการดึงดูดใจให้ลูกค้ามาลองใช้บริการอื่น ๆ ที่แพลตฟอร์มมีอยู่แล้ว เช่น LINE Pay และ LINE MAN VIP เป็นต้น

โดยผลการสำรวจความคิดเห็นลูกค้า LINE MAN ยังพบว่า สิ่งที่ลูกค้าพยายามมองหาเวลาเข้าใช้งานแพลตฟอร์มดีลิเวอรี่มากที่สุด คือส่วนลดค่าอาหาร (88%) ตามมาด้วยส่วนลดค่าส่ง (59%) และโปรโมชั่นเซตเมนู (56%)

แข่งตั้ง “Friend of…” ดึงผู้ใช้ใหม่

นอกจากโปรโมชั่นและแจกโค้ดส่วนลดแล้ว ในแง่ของแคมเปญการตลาดก็คึกคักไม่ต่างกัน โดยหนึ่งในโมเดลที่ทั้งสองค่ายใช้ในปีนี้ คือการแต่งตั้ง “Friend of…” หรือพรีเซ็นเตอร์คนดัง มาช่วยสื่อภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

โดยฝั่งของแกร็บตัดสินใจดึงตัว 4 หนุ่มไอดอล ไม่ว่าจะเป็น เจมีไนน์-นรวิชญ์ ฐิติเจริญรักษ์, โฟร์ท-ณัฐวรรธน์ จิโรชน์ธิกุล, สกาย-วงศ์รวี นทีธร และนานิ-หิรัญกฤษฎิ์ ช่างคำ มาเป็น “Friends of Grab” เพื่อสื่อสารซับแบรนด์ “Hot Deals” หรือเครื่องหมายการันตีความคุ้มที่เปิดตัวในปี 2567 ที่ผ่านมา

รวมถึงสะท้อนความเป็นเทรนด์เซตเตอร์ สนับสนุนภาพลักษณ์แบรนด์เพื่อดึงดูดคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้ Gen Z และมิลเลนเนียล ไปจนถึงเหล่าแฟนคลับที่เป็นตลาดซับคัลเจอร์ ซึ่งมีอิทธิพลในการสร้างเอ็นเกจเมนต์ร่วมกับแบรนด์

สกาย-นานิ-เจมีไนน์-โฟร์ท
สกาย-นานิ-เจมีไนน์-โฟร์ท

ส่วนไลน์แมนเปิดตัว “อิ้งค์-วรันธร เปานิล” นักร้องสาวเจ้าของเพลงฮิตมากมาย เช่น พบรัก และสายตาหลอกกันไม่ได้ ในฐานะ “Friend of LINE MAN” คนล่าสุด เพื่อทำหน้าที่เป็นแม่เหล็กดึงดูดกลุ่มผู้ใช้ใหม่ ๆ

พร้อมกระตุ้นการรับรู้ของแคมเปญผ่านสื่อที่ครอบคลุมทุกช่วงของ Consumer Journey ไม่ว่าจะเป็น Jingle เพลงติดหู, MV และวิดีโอแบบแอนิเมชั่นที่เข้าถึงได้ง่าย รวมถึงสติ๊กเกอร์แชตบนแอป LINE MAN ที่ใช้สื่อสารกับไรเดอร์ รวมถึงสื่อ ณ จุดขาย (POSM) ที่เชื่อมโยงแบรนด์กับร้านค้า ทั้งแบรนด์ดังและร้านอาหารท้องถิ่น

สติ๊กเกอร์แชต “อิ้งค์-วรันธร” บนแอป LINE MAN

จัดเต็มสื่อโฆษณานอกบ้าน

สำหรับแคมเปญกระตุ้นยอดการจับจ่ายช่วงครึ่งปีหลังนี้ ทั้งสองค่ายจัดเต็มเรื่องการใช้สื่อนอกบ้าน (Out of Home) เพราะต้องการประชาสัมพันธ์มูฟเมนต์ใหม่ ๆ ของแบรนด์ในวงกว้าง และขยายฐานผู้ใช้หน้าใหม่ โดยเฉพาะในย่านสำคัญใจกลางกรุงเทพฯ

และการใช้สื่อโฆษณาที่แปลกใหม่เพิ่มเติม เช่น ไลน์แมนตกแต่ง “เรือเป็ดสวนลุม” ด้วยคอนเซ็ปต์โปรโมชั่นของแคมเปญ เพื่อมอบประสบการณ์ใหม่ให้ผู้บริโภค ปูทางสู่การพูดถึงบนโลกออนไลน์ รวมถึงทั้งสองค่ายยังใช้พื้นที่โฆษณาทั้งภายในและภายนอกขบวนรถไฟฟ้าบีทีเอส (BTS) เพื่อเจาะกลุ่มคนเมือง และผู้ใช้ระบบขนส่งสาธารณะ

Grab LINE MAN

Robinhood ทำแคมเปญรักษ์โลก

ขณะที่ 2 ยักษ์ “ค่ายเขียว” จะเดินเกมชิงกำลังซื้อด้วยการปล่อยหมัดเด็ดเรื่องความคุ้มค่าและ “ราคา” แต่แพลตฟอร์มสัญชาติไทยอย่าง “โรบินฮู้ด” (Robinhood) ที่ปัจจุบันอยู่ภายใต้การบริหารงานของกลุ่ม “ยิบอินซอย” ยังไม่ขอเล่นในเกมนี้ และเลือกชูแคมเปญ “Robinhood RETURN” จับกลุ่มลูกค้าสายรักษ์โลก

ขับเคลื่อนภายใต้แนวคิด “สั่ง-ส่ง-คืน” โดยลูกค้าที่สั่งอาหารจากร้านที่เข้าร่วมแคมเปญ จะได้รับอาหารในภาชนะที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ สามารถเลือกวันและเวลาที่สะดวกในการคืนภาชนะผ่านแอป เพื่อให้ไรเดอร์เข้ารับคืนตามเวลาที่นัดไว้ ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ค.-15 ส.ค. 2568

แต่ยังถือเป็นแคมเปญเฉพาะพื้นที่ เพราะร้านที่เข้าร่วมมีแค่ 5 ร้าน ได้แก่ 1.ERR Urban Rustic Thai 2.Appia Roman Trattoria 3.Chita Yutaka Tei 4.VIVIN Asok-cafe grocery bistro และ 5.Little Sunshine Cafe

อย่างไรก็ดี การเปิดสงครามราคา “ลดใหญ่” ของ “แกร็บ” และ “ไลน์แมน” ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ เป็นการสะท้อนภาพเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภคที่อ่อนแรงลงมาก ๆ ได้อย่างชัดเจน

Contact to : xlf550402@gmail.com


Privacy Agreement

Copyright © boyuanhulian 2020 - 2023. All Right Reserved.