Coffee World ปักหมุด CW Tower สำนักงานใหญ่ PTG เปิดแฟล็กชิปสโตร์แห่งใหม่ โชว์เคสกาแฟพรีเมี่ยม-อาหาร-แซนด์วิชทำสด พร้อมส่องกลยุทธ์การเติบโต เปิดใหม่น้อย เน้นคุณภาพ เตรียมแผนพัฒนาโปรดักต์ใหม่ เที่ยวทั่วโลกผ่านรสชาติ

หากพูดถึงแบรนด์ร้านกาแฟ จากบริษัทพลังงานรายใหญ่ของไทย PTG Energy หลายคนอาจจะรู้จัก “กาแฟพันธุ์ไทย” เป็นอย่างดี แต่จริง ๆ แล้ว PTG ยังมีอีกหนึ่งแบรนด์กาแฟที่น่าสนใจ คือ “Coffee World (คอฟฟี่เวิลด์)” ร้านกาแฟพรีเมี่ยมที่นำเสนอเมนูเครื่องดื่ม รังสรรค์จากเมล็ดกาแฟและวัตถุดิบนำเข้าจากทั่วทุกมุมโลก

ล่าสุด Coffee World เดินหน้าขยายสาขาใหม่ ปักหมุด CW Tower อาคารสำนักงานใจกลางรัชดา ย่านธุรกิจสำคัญของกรุงเทพฯ และเป็นสำนักงานใหญ่ของเครือ PTG Energy เพื่อเปิดสาขาล่าสุดที่ชั้น 2 โดยวางคอนเซปต์เป็นสาขาแฟลกชิปสโตร์ และเป็นสาขาในการโชว์เคสเมนูใหม่ ๆ จากวัตถุดิบทั่วทุกมุมโลก รวมถึงมีเมนูอาหาร ของหวานให้ลูกค้าได้เลือกทานหลากหลาย พร้อมการออกแบบที่แตกต่างจากสาขาก่อน ๆ เพื่อตอบโจทย์พนักงานออฟฟิศมากขึ้น

“ประชาชาติธุรกิจ” ได้มีโอกาสคุยเพิ่มเติมกับ ปกรกานต์ รัชกิจประการ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท จีเอฟเอ คอร์ปอเรชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด และชาคริต อนุสภา ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม บริษัท จีเอฟเอ คอร์ปอเรชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้บริหารแบรนด์ร้านกาแฟ Coffee World ถึงการเปิดสาขาใหม่ครั้งนี้ และเป้าหมายต่อไปในอนาคต

สาขาโชว์เคส พร้อมแซนด์วิชบาร์ทำสด

จุดเริ่มต้นของการเปิดสาขาแฟลกชิปที่ CW Tower ชาคริตเล่าว่า มาจากการที่ PTG มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่อาคารดังกล่าว ถึง 11 ชั้น ประกอบกับสาขาของ Coffee World ในกรุงเทพฯ ยังมีไม่เยอะ และมีเสียงเรียกร้องจากผู้คนในอาคาร อยากให้เปิดสาขาใหม่ที่นี่ จึงเป็นที่มาของการเปิดสาขานี้ เพื่อให้บริการกับทั้งพนักงานในเครือ PTG พนักงานจากออฟฟิศอื่น ๆ ใน CW Tower และผู้ที่มาติดต่อ

สำหรับ Coffee World Flagship Store ที่ CW Tower นั้น ปกรกานต์เล่าให้ฟังว่า สาขาดังกล่าว ถูกออกแบบเป็นสาขาโชว์เคส ที่แตกต่างจากสาขาอื่น ๆ ด้วยสไตล์มินิมอล เน้นไม้สีอ่อน ให้ความรู้สึกที่สบาย น่านั่ง และถูกออกแบบเป็น 2 โซนหลัก มีทางเดินของ CW Tower คั่นกลาง โดย 2 โซนหลักของสาขานี้ คือ

• โซน Café สำหรับพนักงานออฟฟิศที่ต้องการความรวดเร็ว พร้อมบริการแบบ Speed Bar
• โซน Restaurant ที่เหมาะสำหรับการนั่งพบปะพูดคุยหรือประชุม พร้อมเมนูอาหารกลางวัน-เย็น

ขณะที่มุมของเครื่องดื่มและเมนูต่าง ๆ จะมีความแตกต่างจากสาขาอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน โดยมีเมนูให้เลือกหลากหลาย และมีเมนูที่ขายเฉพาะสาขานี้ รวมถึงมี Sandwich Bar เป็นสาขาแรกและสาขาเดียวในขณะนี้ ให้บริการแซนด์วิชทำสดร้อน ๆ ชิ้นต่อชิ้น มีให้เลือกทั้งแบบ Flat White, Sourdough, Shio Pan และมีเมนู Plant-Based เมนู Vegetarian และเมนูกรีกโยเกิร์ตสุขภาพจาก Pleased Yoghurt Bar ให้บริการด้วย

เปิดใหม่น้อย เน้นคุณภาพ

สำหรับ Coffee World ในปัจจุบัน มีสาขาเพียง 28 แห่ง ทั้งใน กทม.-ปริมณฑล และต่างจังหวัดบางแห่ง แบ่งเป็นสาขาของบริษัทเอง 25 แห่ง และสาขาแฟรนไชส์ 3 แห่ง และจำแนกตามประเภทสถานที่ที่เปิดสาขา ดังนี้

• ศูนย์การค้า 16 สาขา
• โรงพยาบาล 4 สาขา
• สนามบิน 4 สาขา
• สถาบันการศึกษา 2 สาขา
• สถานีบริการน้ำมัน 2 สาขา

ชาคริตเล่าว่า สาขา Flagship Store ที่ CW Tower ถือเป็นสาขาล่าสุด และเป็นสาขาใหม่แห่งสุดท้ายที่เปิดในปีนี้ พร้อมกับการดูแลคุณภาพสาขาที่มีอยู่ทั้งหมดให้ดีที่สุดก่อน

ปกรกานต์เล่าเสริมว่า ความพรีเมี่ยม เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่แบรนด์ให้ความสำคัญ ทั้งในเชิงผลิตภัณฑ์และแหล่งวัตถุดิบ และการขยายสาขาใหม่ที่น้อย เหตุผลหลักมาจากการเน้นเรื่องคุณภาพด้วย

ขณะเดียวกัน การเน้นวัตถุดิบที่พรีเมี่ยมด้วย ทำให้เป็นข้อจำกัดในเรื่องการนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศที่น้อยด้วยเช่นกัน เช่น อุจิมัทฉะ จากเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ที่กำลังหายาก มีปริมาณน้อย ทำให้สามารถนำเข้ามาทำเมนูขายเฉพาะช่วง (Seasonal Menu) และจำหน่ายเฉพาะในบางสาขา จึงไม่ต้องการที่จะขยายสาขารวดเร็วจนทำให้ไม่สามารถควบคุมการนำเข้าวัตถุดิบให้มีคุณภาพได้

เปิดแผนอนาคต ท่องเที่ยวทั่วโลกผ่านรสชาติ

ในมุมของการขยายสาขาช่วงปีหน้านั้น ชาคริตเล่าว่า ในปีหน้าจะเริ่มกลับมาวางแผนการขยายสาขาต่อ โดยตั้งเป้าขยายสาขาเพิ่ม 3 แห่ง และเน้นการขยายแบบค่อยเป็นค่อยไป

ส่วนแผนการพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือเมนูใหม่ ปกรกานต์เล่าว่า ในช่วงตั้งแต่สิ้นปีนี้ จนถึงปี 2569 ลูกค้าจะได้พบกับเมนูใหม่ ๆ ที่สร้างประสบการณ์ให้ลูกค้ารู้สึกเหมือนไปท่องเที่ยว ผ่านรสชาติของอาหารและเครื่องดื่มที่นำเสนอวัตถุดิบนำเข้าจากทั่วทุกมุมโลก ขณะเดียวกันจะมีการต่อยอดวัตถุดิบต่าง ๆ ผสมผสานเข้ากับกาแฟเพื่อสร้างสรรค์เมนูที่มีเอกลักษณ์ด้วย