เมื่อมีค่าใช้จ่ายก้อนโตเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัว ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาพยาบาล ค่าเทอมลูก หรือค่าใช้จ่ายฉุกเฉินอื่น ๆ ควรทำอย่างไรดีถ้าเงินในบัญชีไม่พอ? สินเชื่อรถแลกเงิน คือทางเลือกที่น่าสนใจ โดยคุณสามารถใช้รถที่มีอยู่เปลี่ยนเป็นเงินสดได้โดยที่ไม่ต้องขาย ไม่ต้องหยุดใช้งาน และไม่ต้องรอนาน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเงินด่วนแต่ยังอยากรักษาทรัพย์สินไว้เหมือนเดิม แต่ควรเลือกสินเชื่อรถแลกเงินที่ไหนดี? บทความนี้มีคำตอบ!
สินเชื่อรถแลกเงิน คือรูปแบบของสินเชื่อที่ให้คุณนำรถยนต์ที่เป็นเจ้าของอยู่แล้ว มาใช้เป็นหลักประกันเพื่อขอวงเงินกู้จากสถาบันการเงินหรือบริษัทสินเชื่อรถแลกเงิน โดยที่ยังสามารถใช้งานรถคันเดิมได้ตามปกติ ไม่จำเป็นต้องขายหรือจอดทิ้งไว้ ต่างจากการขายรถเพื่อนำเงินสดมาใช้ เพราะวิธีนี้ช่วยให้รักษาทรัพย์สินไว้ได้ พร้อมมีเงินก้อนไว้ใช้จ่ายในยามจำเป็น
หลายคนสงสัยว่าสินเชื่อรถแลกเงินแบบโอนเล่มทะเบียนกับไม่โอนเล่มทะเบียน แตกต่างกันอย่างไร และแบบไหนเหมาะกับตนเอง วันนี้เรามีคำตอบมาให้
สินเชื่อรถแลกเงินแบบโอนเล่ม คือการขอสินเชื่อที่ผู้ขอกู้ต้องนำเล่มทะเบียนรถตัวจริงไปโอนชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์จากเจ้าของรถเป็นชื่อของผู้ให้สินเชื่อ ซึ่งเป็นการนำรถไปเป็นหลักประกันเต็มรูปแบบ โดยเมื่อผ่อนชำระครบแล้ว จึงจะมีการโอนกรรมสิทธิ์คืนกลับมา ข้อดีคือได้วงเงินสูงกว่าแบบไม่โอนเล่ม ดอกเบี้ยต่ำกว่า เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเงินก้อนใหญ่และพร้อมโอนเล่ม
สินเชื่อรถแลกเงินแบบไม่โอนเล่ม คือการขอสินเชื่อรถแลกเงิน โดยที่เจ้าของรถยังคงถือกรรมสิทธิ์ในเล่มทะเบียนอยู่ ไม่ต้องมีการโอนชื่อใด ๆ แต่จะใช้การจดทะเบียนภาระผูกพันแทน โดยสถาบันการเงินจะยังมีสิทธิ์ยึดรถหากผิดนัดชำระ ข้อดีคือไม่ต้องโอนกรรมสิทธิ์ในเล่มทะเบียน ขั้นตอนง่ายและรวดเร็ว เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเงินด่วน ไม่อยากยุ่งยากกับเรื่องเอกสาร
คุณสามารถใช้รถเป็นหลักประกัน เพื่อขอสินเชื่อรถแลกเงินได้ไม่ยาก แถมยังได้เงินไว ใช้รถได้ตามปกติ และไม่ต้องขายรถทิ้งด้วย โดยสินเชื่อรถแลกเงินมีข้อดี ได้แก่
เมื่อขอสินเชื่อรถแลกเงิน สิ่งสำคัญที่ควรรู้คือดอกเบี้ย ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายให้กับสถาบันการเงินที่ปล่อยกู้ โดยปกติจะมีการคิดแบบลดต้นลดดอก หมายความว่ายิ่งจ่ายเงินต้นได้มาก ดอกเบี้ยก็จะลดลงตาม สูตรการคำนวณดอกเบี้ยสินเชื่อรถแลกเงิน คือ
(เงินต้น x อัตราดอกเบี้ยต่อปี x จำนวนวัน / จำนวนวันในรอบปี)
เช่น คุณขอสินเชื่อรถแลกเงินวงเงิน 150,000 บาท อัตราดอกเบี้ยต่อปีอยู่ที่ 12% ต้องการคำนวณดอกเบี้ย รายเดือน (30 วัน) โดยปีนี้มี 365 วัน ในรอบเดือนนี้ คุณจะต้องจ่ายดอกเบี้ย (150,000 x 12% x 30) / 3651,479.45 ≈ 1,479.45 บาท
ก่อนตัดสินใจขอสินเชื่อรถแลกเงิน สิ่งสำคัญที่สุดคือเลือกแหล่งเงินกู้ที่ถูกกฎหมายและตรวจสอบเงื่อนไขให้รอบคอบ เพื่อให้ได้ข้อเสนอที่เหมาะสมกับคุณที่สุด
สิ่งสำคัญที่สุดในการเลือกสินเชื่อรถแลกเงิน คือการเลือกอย่างมีสติ อ่านสัญญาให้ครบ และอย่าลืมเปรียบเทียบเงื่อนไขหลาย ๆ เจ้า เพื่อให้มั่นใจว่าเรากำลังเลือกแหล่งเงินกู้ที่ “ใช่” และ “เหมาะ” กับเราที่สุด เพราะสินเชื่อรถแลกเงิน อาจเป็นเครื่องมือช่วยชีวิตได้ในยามจำเป็นถ้าใช้ให้ถูกวิธี
ถ้าใครกำลังมองหา สินเชื่อรถแลกเงิน ที่สะดวก ปลอดภัย และมีบริการที่ตอบโจทย์จริง ๆ บริการหนึ่งที่น่าสนใจ คือสินเชื่อ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน เพราะหลังอนุมัติสินเชื่อแล้ว ยังมีการให้บัตรกดเงินสดแถมมาด้วย สามารถกดเงินจากตู้ ATM ได้ตลอด 24 ชั่วโมง แถมไม่เสียค่าธรรมเนียมการกด ไม่จำกัดอาชีพผู้สมัคร ขอแค่มีรายได้ตามเกณฑ์ และแสดงหลักฐานได้ชัดเจน ไม่ว่าคุณจะเป็นพนักงานประจำ หรือค้าขายเล็ก ๆ ก็สามารถสมัครได้ ที่สำคัญ วงเงินอนุมัติถือว่าสูงพอสมควร เป็นทางเลือกน่าสนใจสำหรับคนที่มีรถปลอดภาระในมือ