เปิดขั้นตอน แนะวิธีลงทะเบียนเที่ยวไทยคนละครึ่ง ททท.แก้ปัญหาแอปล่ม 22 เมืองหลัก 55 เมืองรอง
ตามที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบโครงการและรายการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 110,000 ล้านบาท จากกรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอมา
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วรัฐบาลได้เปิดให้ผู้ประกอบการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการล่วงหน้า จะเปิดให้ผู้ประกอบการลงทะเบียนได้ภายในวันที่ 25 มิถุนายน และจะเริ่มให้ประชาชนทั่วไปลงทะเบียนวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยประชาชนที่สนใจสามารถจองและใช้สิทธิรับส่วนลดค่าที่พักและ e-Coupon สำหรับค่าอาหารและกิจกรรมท่องเที่ยวได้จนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2568
โครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง 2568” ครอบคลุมพื้นที่ท่องเที่ยวทั่วประเทศ โดยแบ่งเป็น 22 เมืองหลัก ที่รัฐบาลสนับสนุนค่าที่พัก 50% สำหรับวันธรรมดา และ 40% สำหรับวันหยุด และ 55 เมืองรอง ที่จะได้รับการสนับสนุน 50% ทั้งวันธรรมดาและวันหยุด เพื่อกระตุ้นการกระจายตัวของนักท่องเที่ยวไปยังพื้นที่ที่มีศักยภาพ
1.ดาวน์โหลดและยืนยันตัวตน ThaID : เป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญที่สุด ต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น ThaID และลงทะเบียนยืนยันตัวตนให้เรียบร้อยล่วงหน้าก่อนการจอง
2.ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น Amazing Thailand : ติดตั้งแอปพลิเคชั่น Amazing Thailand และลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ รวมถึงกดยอมรับเงื่อนไข ซึ่งขณะนี้ระบบการจองสามารถเข้าสู่ระบบให้ประชาชนที่ยืนยันตัวตนสำเร็จเข้าไปจับจองที่พักกันแล้ว
3.จองที่พักโดยตรง : ค้นหาโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการผ่านแอปพลิเคชั่น Amazing Thailand และติดต่อจองที่พักโดยตรงกับผู้ประกอบการ โดยต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วันก่อนวันเดินทาง
4.ชำระเงินและแนบหลักฐาน : หลังจากได้รับการยืนยันการจองจากโรงแรมแล้ว ผู้จองจะต้องชำระเงินค่าที่พักในอัตราที่ได้รับส่วนลด และที่สำคัญคือ ต้องชำระเงินและแนบหลักฐานการชำระเงินบนแอปพลิเคชั่น Amazing Thailand ภายในเวลา 23.00 น.
5.เช็กอินเพื่อรับ e-Coupon : เมื่อถึงวันเข้าพัก ให้เช็กอินที่โรงแรมผ่านแอปพลิเคชั่น Amazing Thailand เพื่อยืนยันตัวตนและรับ e-Coupon มูลค่า 500 บาทต่อสิทธิทันที หากพักหลายคืน ต้องเช็กอินผ่านแอปพลิเคชั่นทุกวันก่อน 23.00 น. เพื่อรับ e-Coupon ประจำวัน
6.ใช้ e-Coupon : สามารถใช้ e-Coupon กับร้านค้า/บริการที่เข้าร่วมโครงการ โดยเปิดแอปพลิเคชั่น Amazing Thailand และแสดง QR Code ให้ร้านค้าสแกนเพื่อรับส่วนลด และชำระยอดที่เหลือผ่านแอปพลิเคชั่นธนาคาร
เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โพสต์ภาพผ่านเพจ “Thapanee Kiatphaibool” ระบุว่า ททท.
ทั้งนี้ ททท.รับทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและอยู่ระหว่างการแก้ไขให้ระบบสามารถกลับมาใช้การได้อย่างเต็มประสิทธิภาพโดยเร็วที่สุด ประชาชนที่มีความประสงค์เข้าร่วมโครงการ ยังคงสามารถลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิดังกล่าวได้ผ่าน www.เที่ยวไทยคนละครึ่ง.com
-โครงการนี้มอบสิทธิประโยชน์รวม 500,000 สิทธิ (ลดลงจากเดิม 1 ล้านสิทธิ) โดยผู้ที่ได้รับสิทธิจะได้รับ :
-ส่วนลดค่าที่พัก :
เมืองท่องเที่ยวหลัก : รัฐบาลสนับสนุน 50% สำหรับวันธรรมดา (จันทร์-ศุกร์) ไม่เกิน 3,000 บาทต่อห้อง/คืน และ 40% สำหรับวันหยุด (เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์) ไม่เกิน 3,000 บาทต่อห้อง/คืน
เมืองน่าเที่ยว : รัฐบาลสนับสนุน 50% ทั้งวันธรรมดาและวันหยุด ไม่เกิน 3,000 บาทต่อห้อง/คืน
-e-Coupon ส่วนลด : เมื่อเช็กอินเข้าที่พัก ผู้ใช้สิทธิจะได้รับ e-Coupon มูลค่า 500 บาทต่อสิทธิ สำหรับใช้เป็นส่วนลดค่าอาหารและกิจกรรมท่องเที่ยว ณ ร้านค้าและบริการที่เข้าร่วมโครงการ แต่ละคนสามารถใช้สิทธิได้สูงสุด 5 สิทธิ หรือ 5 คืน
-ลงทะเบียนได้ตั้งแต่ 25 มิถุนายน 2568 เวลา 00.01 น.
-ลงทะเบียนผู้ประกอบการ : เที่ยวไทยคนละครึ่งได้ที่ https://partner.tat.or.th
ประเภทของผู้ประกอบการที่เปิดรับ
-ร้านอาหาร
-ร้านขายของที่ระลึก
-ร้านค้า OTOP
-แหล่งท่องเที่ยว/กิจกรรมท่องเที่ยว
-สปา/นวดเพื่อสุขภาพ
-รถเช่า/เรือเช่า
-โรงแรม/ที่พัก
ภาคเหนือ
เชียงใหม่
ภาคกลาง
กรุงเทพมหานคร
กาญจนบุรี
นครปฐม
นนทบุรี
ปทุมธานี
ประจวบคีรีขันธ์
พระนครศรีอยุธยา
เพชรบุรี
สมุทรสาคร
สระบุรี
สมุทรปราการ
ภาคใต้
กระบี่
พังงา
ภูเก็ต
สงขลา
สุราษฎร์ธานี
ภาคตะวันออก
ฉะเชิงเทรา
ชลบุรี
ระยอง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ขอนแก่น
นครราชสีมา
ภาคเหนือ
กำแพงเพชร
เพชรบูรณ์
เชียงราย
แพร่
ตาก
แม่ฮ่องสอน
นครสวรรค์
ลำปาง
น่าน
พะเยา
สุโขทัย
พิจิตร
อุตรดิตถ์
พิษณุโลก
อุทัยธานี
ลำพูน
ภาคกลาง
ชัยนาท
ราชบุรี
ลพบุรี
สมุทรสงคราม
สิงห์บุรี
สุพรรณบุรี
อ่างทอง
ภาคใต้
ชุมพร
ตรัง
นราธิวาส
ปัตตานี
นครศรีธรรมราช
พัทลุง
สตูล
ยะลา
ระนอง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
กาฬสินธุ์
เลย
ชัยภูมิ
ศรีสะเกษ
นครพนม
สกลนคร
บึงกาฬ
สุรินทร์
บุรีรัมย์
หนองคาย
มหาสารคาม
หนองบัวลำภู
มุกดาหาร
อำนาจเจริญ
ยโสธร
อุดรธานี
ร้อยเอ็ด
อุบลราชธานี
ภาคตะวันออก
จันทบุรี
ตราด
นครนายก
ปราจีนบุรี
สระแก้ว