มหากิจศิริโล่ง! ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ “ปฏิเสธ” คำร้องเนสท์เล่ ตั้งบริษัทบริหารรง.เนสกาแฟ ชี้มีข้อกังขาเรื่องความเป็นกลาง
ความคืบหน้ากรณีข้อพิพาทระหว่างเนสท์เล่ และตระกูลมหากิจศิริ เมื่อเนสท์เล่ได้แจ้งยุติสัญญาที่ให้สิทธิ บริษัท ควอลิตี้ คอฟฟี่ โปรดักท์ส จำกัด (QCP) ในการผลิตเนสกาแฟในปี พ.ศ.
ผู้ถือหุ้นของบริษัททั้งสองฝ่ายไม่สามารถตกลงเรื่องการดำเนินงานในอนาคตของบริษัท ควอลิตี้ คอฟฟี่ โปรดักท์ส จำกัดได้ ส่งผลให้เกิดการยื่นฟ้องต่อศาลต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา โดยเนสท์เล่ ได้แต่งตั้งบริษัท แกรนธอนตัน สเปเชียลิสท์ แอ็ดไวซอรี่ เซอร์วิสเซส จำกัด ให้เข้ามาบริหารทรัพย์สินของบริษัท ควอลิตี้ คอฟฟี่ โปรดักท์ส จำกัด (QCP)
ล่าสุด ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ มีคำสั่งปฏิเสธคำขอของฝ่ายผู้ร้อง (เนสท์เล่) ในการแต่งตั้งบริษัท แกรนธอนตัน สเปเชียลิสท์ แอ็ดไวซอรี่ เซอร์วิสเซส จำกัด ให้เข้ามาบริหารทรัพย์สินของบริษัท ควอลิตี้ คอฟฟี่ โปรดักท์ส จำกัด (QCP) ชั่วคราว ระหว่างการพิจารณาคดีข้อพิพาทระหว่างผู้ถือหุ้นสองฝ่าย โดยให้เหตุผลว่า บริษัทแกรนธอนตันแม้มีประสบการณ์ด้านการฟื้นฟูกิจการ แต่ไม่เคยจัดการทรัพย์สินในกรณีที่ผู้ถือหุ้นมีความขัดแย้งอย่างรุนแรงเช่นนี้ และยังมีข้อกังขาเรื่องความเป็นกลาง เนื่องจากได้รับการติดต่อจากฝ่ายผู้ร้องเพียงฝ่ายเดียว
ศาลเห็นว่าการแต่งตั้งผู้จัดการภายนอก ณ เวลานี้ยังไม่เหมาะสม แต่เพื่อคุ้มครองสิทธิและผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นฝ่ายผู้ร้อง ศาลมีคำสั่งให้กรรมการฝ่ายผู้คัดค้านทั้งสาม จัดทำบัญชีรายรับรายจ่าย บัญชีสินทรัพย์และหนี้สินของบริษัทเป็นรายเดือน ส่งต่อศาลพร้อมสำเนาให้ผู้ร้อง ภายในวันที่ 15 ของทุกเดือน เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม 2568 เป็นต้นไป
ก่อนหน้านี้ ศาลแพ่งมีนบุรีมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว อนุญาตให้กรรมการฝ่ายผู้คัดค้านใช้เสียงข้างมากได้ โดยไม่ต้องเป็นไปตามข้อบังคับบริษัทที่กำหนดให้ใช้เสียง 5 จาก 7 เสียง ทำให้ฝ่ายผู้คัดค้านสามารถมีมติฝ่ายเดียวได้ทุกวาระ ซึ่งรวมถึงการมีมติให้บริษัท QCP ชำระค่าธรรมเนียมอนุญาโตตุลาการให้แก่ผู้คัดค้านที่ 3 และผู้ร้องเต็มจำนวน ทั้งยังมีมติให้อำนาจผู้คัดค้านที่ 1 บริหารจัดการธุรกรรมทางการเงินของบริษัทและลงนามเช็คโดยลำพัง
นอกจากนี้ ยังมีมติให้พักงานนายรามอน เมนดิวิล กิล ซึ่งเป็นตัวแทนฝ่ายผู้ร้องในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ทำให้ฝ่ายผู้ร้องไม่สามารถตรวจสอบการดำเนินงานและการใช้จ่ายของบริษัทได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ศาลจึงมีคำสั่งชัดเจนให้เปิดเผยข้อมูลการเงินและบัญชีรายเดือนต่อทั้งศาลและผู้ร้อง เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับทรัพย์สินของบริษัทในระหว่างที่การพิจารณาคดียังไม่สิ้นสุด